ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ป่าไม้สนธิกำลังหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบวัดพระใหญ่ หลังถูกตั้งข้อสงสัยเป็นต้นเหตุทำดินถล่ม คร่า 13 ชีวิต พบเกินจากที่ขออนุญาต 5 ไร่ ด้านสำนักสำนักพระพุทธศาสนาภูเก็ตเผย ขอใช้พื้นที่ 15 ไร่ อยู่ระหว่างกรมป่าไม้พิจารณา
จากกรณีที่เกิดเหตุดินจากเขานาคเกิด ถล่มลงมาทับบ้านเรือประชาชนเสียหายกว่า 50 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 13 ศพ ในปฏัก ซอย 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุสังคมมุ่งเป้าไปที่วัดพระใหญ่ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ดินสไลด์ลงมา เนื่องจากพบว่าจุดเริ่มต้นของดินสไลด์อยู่ห่างจากลานจอดรถที่ทางวัดสร้างขึ้นมาใหม่ไม่เกิน 5 เมตร และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (27 ส.ค.) ป่าไม้จังหวัดภูเก็ต ได้สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ท้องถิ่น เข้าตรวจสอบวัดพิกัดพื้นที่ด้วย GPS สัญญาณดาวเทียม เพื่อหาจุดกำหนดพื้นที่ 15 ไร่ ที่ได้มีการยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และพื้นที่นอกเหนือจาก 15 ไร่ พร้อมทั้งตรวจนับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในพื้นที่ 15 ไร่ และนอกพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจพิกัด GPS ในเบื้องต้นพบว่า ทางวัดได้ขยายพื้นที่ออกไปประมาณ 5 ไร่ มีการก่อสร้างทั้งในส่วนของลานจอดรถ ห้องน้ำ และอาคารบางส่วน โดยในส่วนนี้ทางป่าไม้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิดต่อไป
จากการสอบถามไปยังสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต ทราบว่า วัดพระใหญ่นั้นก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2545 ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นวัดแต่อย่างใด แต่ขึ้นทะเบียนเป็นที่พักสงฆ์พระใหญ่ มีการก่อสร้างพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรีขึ้นมา จนในปี 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 ให้วัดที่อยู่ในเขตป่าไม้โดยไม่ได้ขออนุญาตให้ยื่นคำขอใช้พื้นที่ให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต จึงได้ยื่นเรื่องขอใช้พื้นที่จำนวน 15 ไร่ เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี และสถานที่ปฏิบัติธรรมและกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา (เขานาคเกิด ของวัดกิติสังฆาราม) ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ทางกรมป่าไม้พิจารณาอนุญาตการใช้พื้นที่ 15 ไร่
ด้าน นายวัฒนพงษ์ สุกใส ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การก่อสร้างต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตถูกควบคุมด้วยประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2560 ที่ระบุไว้ว่า ความสูงเกิน 80 เมตรจากน้ำทะเลไม่สามารถทำการก่อสร้างได้ ยกเว้นในส่วนของหน่วยงานราชการและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งในส่วนของวัดพระใหญ่นั้นอยู่ที่ความสูงเกิน 80 เมตร น่าจะสูงประมาณ 300 เมตร แต่เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ครม.ได้มติให้วัดที่อยู่ในเขตป่าไม้มายื่นขออนุญาตการใช้พื้นที่ได้ ซึ่งในส่วนของวัดพระใหญ่ได้มีการดำเนินการยื่นขอใช้พื้นที่กับทางกรมป่าไม้ไปแล้ว เท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกรมป่าไม้ไปพร้อมกับวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วัดพระใหญ่นั้น ดำเนินการในนามมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา 45 ที่ได้มีการจดทะเบียนกับทางอำเภอเมืองภูเก็ต และได้มีการยื่นงบดุลทุกปี โดยเมื่อปี 2566 มีรายได้ถึง 86 ล้านบาท และในปี 2565 มีรายได้กว่า 40 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากเงินบริจาค
สำหรับบรรยากาศที่วัดพระใหญ่ในวันนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว ไหว้พระทำบุญอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม เพราะวัดพระใหญ่แห่งนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ว่า Big Buddha นักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่นี่จะมาไหว้พระ ทำบุญ ชมวิวที่สวยงามที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ทั้งอ่าวฉลอง กะตะ กะรน และตัวเมืองภูเก็ตได้แบบ 360 องศา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งลานจอดรถที่กว้างขวาง ร้านค้า รวมไปถึงมีจุดให้นักท่องเที่ยวได้ทำบุญกันอีกด้วย