ชุมพร - หนุ่มอดีตพนักงานไปรษณีย์แค้นถูกไล่ออกจากงาน ถือมีดอีโต้บุกไปทำร้ายหัวหน้าแต่พลาดท่าถูกหัวหน้าแย่งมีดฟันกลับยับนับร้อยแผล จับมัดมือมัดเท้า นอนจมกองเลือด รอตำรวจ หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ. แต่สิ้นใจก่อน ญาติไม่ปักใจเชื่อ
โดยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อค่ำวันนี้ (10 ส.ค.) โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ร.ต.ท.นฤพนธ์ ชูช่วย รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านมาบอำมฤต จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายที่ทำการไปรษณีย์มาบอำมฤต ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงได้เดินทางพร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปราม หน่วยกู้ภัย ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
พบนายวิทยา ประดิษฐ์ผล อายุ 40 ปี อดีตพนักงานไปรษณีย์มาบอำฤต อยู่บ้านเลขที่ 76/1 ม.12 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการโคม่า ถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกาย ถูกมัดมือมัดเท้าด้วยเชือก นอนหายใจรวยรินเลือดท่วมตัว และไหลนองพื้นไปทั่วบริเวณ อยู่ภายในที่ทำการไปรณีย์
ส่วนคู่กรณีคือ นายณรงค์ธรรม สุขสวัสดิ์ อายุ 42 ปี เป็นหัวหน้าไปรษณีย์มาบอำมฤต อยู่บ้านเลขที่ 44/3 ม.1 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับบาดเจ็บจากของมีคมเช่นเดียวกัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยมีบาดแผลถูกฟัน 42 แผล เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งคู่ ส่งโรงพยาบาล แต่นายวิทยา เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวิทยา ผู้บาดเจ็บสาหัส ได้ก่อเหตุเดินถือมีดอีโต้เข้าไปที่ทำการไปรษณีย์และใช้มีดอีโต้ฟันทำร้ายนายณรงค์ธรรม แต่นายณรงค์ธรรม ฮึดสู้และสามารถแย่งชิงมีดมาได้ แล้วฟันใส่นายวิทยาไม่ยั้งมือ จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ หลัวจากนั้น นายณรงค์ธรรม ได้จับนายวิทยา มัดมือมัดเท้า ไว้ในที่เกิดเหตุ และต่อมานายวิทยา ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายชาญ ประดิษฐ์ผล อายุ 68 ปี อดีตนายสถานีรถไฟ ขณะอยู่ภายในศาลาอัมรินทานุสรณ์ ซึ่งเป็นศาลาบำเพ็ญกุศลศพของตลาดชุมพรมาบอำมฤต ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายวิทยา ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกชาย กล่าวว่า ลูกชายตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารักษาตัว รับกลับมาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการที่หายป่วยแล้ว
โดยลูกชายตนเคยทำงานอยู่ที่ไปรษณีย์มาบอำฤตมานานกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับใคร ซึ่งจะมีปัญหาอยู่กับหัวหน้างานคนปัจจุบัน ระหองระแหงเรื่องงานกันมาตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งโดยส่วนตัวนายวิทยา ลูกชายตนเป็นคนพูดน้อย เพื่อนร่วมงานและชาวบ้านรักทุกคน และที่ผ่านมาหัวหน้าลูกชายเคยพูดขู่ไว้ว่า เขาเอาคนออกมาเยอะแล้ว และตั้งแต่หัวหน้าคนนี้เข้ามาเอาคนออกหลายคนแล้วด้วย ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องงานเพราะจู่ๆหัวหน้างานคนนี้ให้ลูกชายตนออกจากงาน ซึ่งมาจากเรื่องปัญหาภายในของหัวหน้ากับลูกน้อง”
นายชาญ เล่าอีกว่า วันเกิดเหตุลูกชายมาหาตนแต่เช้านั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน โดยไม่ได้พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฟัง หลังจากนั้นออกไปไม่ได้บอกกล่าวกัน จนทราบว่าไปก่อเหตุที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งตนเห็นว่ามันรุนแรงมากเกินไป เกินกว่าเหตุไม่น่าทำกันอย่างนั้น ลูกชายตนมีบาดแผลรอยทิ่มแทงทั้งตัวเกือบ 100 แผล ตนคิดว่าคนทำร้ายลูกชายไม่ใช่แค่คนเดียวแน่นอน จึงขอร้องตำรวจว่าต้องทำให้กระจ่าง อย่าทำอึมครึม ขอให้ทำให้ชัดเจน ตนยืนยันว่าลูกชายเข้ารักษาตัวนั้นเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ใช่รักษาอาการติดยาเสพติดแต่อย่างใด ให้ความเป็นธรรมกับลูกตนด้วย” พ่อผู้ตาย กล่าว
ด้าน น.ส.วันวิสา ประดิษฐ์ผล อายุ 44 ปี พี่สาวผู้ตายบอกด้วยความอัดอั้นใจว่า ตนเข้าใจว่าน้องชายทำผิดที่ไปทำร้ายถึงที่ทำงาน แต่เมื่อจับตัวได้แล้วทำไมไม่หยุดกรณีแบบนี้ไม่มีใครรับได้ ตนคิดว่าน่าจะรุมกันทำร้ายจนสาหัสแล้วจับมัดมือมัดเท้า เพราะคนทำต้องมากกว่า 1 คน ถ้าตัวต่อตัวอีกฝ่ายสู้น้องชายตนไม่ได้แน่นอน เพราะน้องชายเป็นคนตัวใหญ่สูง 180 ซม.
มาบอกว่าป้องกันตัว ไม่ได้ทำอะไรแค่ล็อกตัวเฉยๆ ตนจึงมีคำถามว่าถ้าแค่ล็อกตัวแล้วบาดแผลทั้งหมดมาจากไหน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ข้อพับขาทั้งสองข้าง และบริเวณศีรษะซึ่งทำให้เลือดไหลไม่หยุด จึงทำให้เสียชีวิต เราไม่ได้กล่าวหาใครเพราะเราไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ร่างกายน้องชายเหมือนทรมานก่อนตาย ถ้าใครเห็นคลิปภาพที่มีเลือดท่วม แขนขาถูกมัด มีรอยฟกช้ำบริเวณเบ้าตาและใบหน้า ใครจะรับได้”
อาวุธที่น้องชายตนเอาไปแค่มีดอีโต้ เพราะดูจากบาดแผลตามร่างกายน้องตน เป็นรอยถูกแทงเหมือนมีดปลายแหลม และมีภาพพนักงานคนหนึ่งหลังเกิดเหตุเดินถือมีดปลายแหลมอยู่ด้วย เป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุด้วยหรือไม่ ส่วนสาเหตุเรื่องทะเลาะกันนั้นตนเป็นพี่สาวไม่ทราบรายละเอียด เพราะน้องไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่รู้คร่าวๆ ว่า ทั้งสองคนเคยมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้วครั้งหนึ่ง”
วันเกิดเหตุภายในที่ทำการไปรษณีย์ บริเวณจุดเกิดเหตุมีอยู่ด้วยกัน 3 คน ขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้ เพราะหลุดออกจากมุมกล้อง เห็นเพียงน้องชายถือมีดอีโต้เดินขึ้นไปแค่นั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวตนมองว่าเกินกว้าเหตุ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนให้ได้ว่ามีคนอื่นร่วมก่อเหตุกระทำน้องชายด้วยหรือไม่” น.ส.วันวิสา พี่ผู้เสียชีวิตกล่าว
ด้านพนักงานสอบสวน สภ.มาบอำมฤต เจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังจากสอบปากคำหัวหน้าไปรษณีย์ ให้การว่าผู้ก่อเหตุเอามีดไปฟันเพราะไม่พอใจที่ถูกไล่ออกเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว จึงมีการต่อสู้ตอบโต้กัน และยอมรับว่ากระทำแค่เพียงคนเดียวแต่ทางญาติผู้ตายติดใจในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบสวน แต่เบื้องต้นยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปหาบุคคลที่ร่วมกันกระทำความผิด และทราบจากญาติผู้ตายว่าเคยรักษาอาการซึมเศร้ามาก่อน ในส่วนอื่นๆ นั้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ