นครศรีธรรมราช - ผู้เลี้ยงกุ้งปรับตัวสู้ปลาหมอคางดำ ทดลองนำต้มทำเป็นอาหารกุ้ง สังเกตความเปลี่ยนแปลง คาดโปรตีนของปลาจะช่วยการเจริญเติบโตของกุ้ง คุณภาพของเนื้อ อัตราการแลกเนื้อที่ดีขึ้น
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช การระบาดอย่างรุนแรงของปลาหมอคางดำในอำเภอปากพนัง และหัวไทรยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวได้ใช้โอกาสนี้สร้างรายได้จากปลาหมอคางดำด้วยการนำมาจำหน่ายให้แก่แพปลาเพื่อนำไปเป็นเหยื่อในลอบปู หรือแปรรูปเป็นอาหารท้องถิ่น และแม้จะมีโครงการเตรียมรับซื้อปลาหมอคางดำโดยกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ กรมประมง และการยางแห่งประเทศไทย แต่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องจุดรับซื้ออย่างจริงจัง ล่าสุด มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งรายใหญ่ที่ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทดลองนำปลาหมอคางดำมาใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับกุ้งในฟาร์ม
นายพิเชษฐ์ รัตนกุล เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งชาวเนินหนองหงส์ หมู่ 4 ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร นครศรีธรรมราช พื้นที่ระบาดของปลาหมอคางดำได้เริ่มทดลองเริ่มต้นจากการใช้ปลาหมอคางดำวันละ 50 กิโลกรัม มูลค่า 1 พันบาท มาปรับใช้เป็นอาหารเสริมให้แก่กุ้งที่เลี้ยงไว้ และเริ่มสังเกตความเปลี่ยนแปลงของกุ้งในบ่อ
เริ่มต้นตอนเช้าจากการไปรับปลามาจากแหล่ง จากนั้นได้นำมาทำความสะอาดแล้วต้มทันทีพร้อมกับใส่เกลือจำนวนหนึ่ง โดยจะไม่ใช้ปลาสดอย่างเด็ดขาดเกรงว่าจะมีการเล็ดลอดของไข่ปลาแล้วทำให้มีการแพร่พันธุ์ได้ในบ่อกุ้งจะสร้างความเสียหายได้ เมื่อต้มจนสุกจากนั้นพักไว้จนกระทั่งช่วงเย็นของทุกวันจะนำไปเสริมอาหารให้กุ้งในบ่อเลี้ยง
นายพิเชษฐ์ ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นทดลองมาได้ 3-4 วัน ยังไม่เห็นผล แต่ได้ทดลองมีทั้งบ่อที่ให้ปลาหมอคางดำต้ม และบ่อที่ไม่ได้ให้เสริม เพื่อสังเกตดูความเปลี่ยนแปลง คาดหวังว่าโปรตีนของปลาหมอคางดำจะช่วยการเจริญเติบโตของกุ้ง คุณภาพของเนื้อ อัตราการแลกเนื้อที่ดีขึ้น ไม่กี่วันนี้น่าจะเห็นผลได้ชัดเจน
นอกจากนั้น ยังมีการต้มให้เปื่อยยุ่ยแล้วนำไปหมักผสมกับจุลินทรีย์ประมาณ 4-5 เดือนแล้วนำน้ำหมักที่ได้ไปผสมคลุกเคล้ากับอาหารก่อนนำไปใช้กับกุ้ง ซึ่งคาดหวังว่าจะได้ผลดีกลับมา และอาจเป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง รวมทั้งลดปริมาณการระบาดของหมอคางดำได้ในระดับหนึ่งเนื่องจากผู้เลี้ยงกุ้งมีอยู่เป็นจำนวนมากดึงเอาปลาไปใช้ได้ปริมาณมหาศาล