พังงา - รองนายก อบต.เกาะปันหยี ออกโรงปกป้องเกาะปันหยี แจงข้อเท็จจริงดรามา! 2 หนุ่ม คัลแลน-พี่จอง เที่ยวเกาะปันหยี ถูกโก่งราคาทั้งค่าเรือ ของที่ระลึก เป็นราคาที่เหมาะสม ขอความเป็นธรรมให้ชาวเกาะปันหยี ไม่ขอตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น หากยังไม่หยุดหยามเกียรติความเป็นมุสลิมกว่า 1,800 ชีวิตบนเกาะแห่งนี้ พร้อมใช้กฎหมายเอาผิด
จากกรณีดรามาบนโลกโซเชียล 2 หนุ่ม คัลแลน- พี่จอง ไปเที่ยวเกาะปันหยี จ.พังงา และเกิดประเด็นวิจารณ์ถึงราคาค่าเรือโดยสารที่ทั้ง 2 หนุ่มใช้บริการเดินทางจากฝั่งไปเกาะปันหยี ราคา 1,000 บาท ของที่ระลึกที่เป็นสร้อยข้อมือที่ทำจากเปลือกหอย และหอยมุก ราคา 800 บาท เมื่อขอให้ลดราคา เจ้าของร้านบอกว่าแถมสร้อยข้อมือไป 1 เส้น รวมเป็น 1,000 บาท แพงเกินไป ขายของโก่งราคานักท่องเที่ยว เป็นต้น
นายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี จ.พังงา ออกมาชี้แจงว่า ค่าเรือโดยสารที่คัลแลน-พี่จอง เช่าแบบเหมาลำไปเที่ยวเกาะปันหยี ราคา 1,000 บาท ถือว่าไม่แพง เพราะใช้เวลาในการเดินทางตามเส้นทางเกือบครึ่งชั่วโมง และเมื่อเรือไปส่งทั้ง 2 หนุ่มถึงเกาะปันหยีแล้ว ต้องตีเรือกลับมายังฝั่ง และกลับไปรับอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น ราคานี้ถือว่าไม่ได้เอาเปรียบและโก่งราคานักท่องเที่ยวแต่อย่างใด เพราะราคากลางที่รัฐกำหนดจากฝั่งไปเกาะปันหยีอยู่ที่ 1,000 บาท ซึ่งตนที่เป็นคนเกาะปันหยีใช้บริการในราคานี้เหมือนกัน อยู่ที่ 900-1,000 บาท
ส่วนประเด็นการซื้อขายสินค้าที่อยู่บนเกาะปันหยี ที่ 2 หนุ่มไปซื้อสร้อยข้อมือที่ทำจากเปลือกหอย 2 เส้น 800 บาท ไม่ทอน คิดราคา 1,000 บาท โดยแถมไปอีก 1 เส้นนั้น นายประสิทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนในฐานะที่เป็นผู้นำชุมชนเกาะปันหยี ได้สอบถามไปยังแม่ค้าคนดังกล่าวแล้ว เพระไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายกับเกาะปันหยี ที่เราทำการท่องเที่ยวมาเกือบ 70 ปี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะมาพังพินาศเพราะเรื่องเพียงวินาทีเดียวไม่ได้ ทุกคนบนเกาะปันหยีรู้ดีว่าจะต้องดูแลนักท่องเที่ยวอย่างไร การซื้อขายสร้อยข้อมือกันนั้น เท่าที่สอบถามจากแม่ค้าคนดังกล่าวทราบว่า มีการตกลงราคาสร้อยข้อมือที่เป็นเปลือกหอย 300 บาท และเปลือกหอยมุก 500 บาท รวมเป็นเงิน 800 บาท ซึ่งป้าที่เป็นแม่ค้าบอกว่าทางยูทูปเบอร์ทั้งสองอยากจะได้ของแถม ขอของแถมหน่อยได้มั้ย ป้าคนขายเลยบอกว่าจะแถมสร้อยข้อมือราคา 300 บาทให้เป็นพิเศษ ซึ่งราคารวมอยู่ที่ 1,100 บาท แต่ป้าคนขายขอคิด 1,000 บาท ไม่ใช่เป็นการยัดเยียดขายแต่อย่างใด แต่เขาอยากจะได้ของแถม จึงได้มีการพูดคุยกัน จึงอยากจะทำความเข้าใจในจุดนี้ด้วย
ส่วนกรณีที่โซเชียลได้มีการพิพากษ์วิจารณ์ถึงที่พักและอาหารที่ให้บริการบนเกาะปันหยีนั้น รองนายก อบต.เกาะปันหยี บอกว่า ราคาสินค้าในเมืองขายเท่าไหร่ที่เกาะปันหยีก็ขายราคาเท่านั้น ไม่ได้บวกเพิ่มแต่อย่างใด ราคาอาหารการกินราคาไม่ได้สูงจากในเมืองมากนัก เพราะเราต้องใช้เรือในการขนส่ง เช่น กะเพราไก่ราคา 60 บาท ไม่ได้แพงจากในเมือง ส่วนเรื่องที่พักนั้นมีไม่กี่ที่
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ชาวเกาะปันหยีพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาในโซเชียลมีการด่าทอชาวเกาะปันหยีต่างๆ นานา บางคนด่าไปถึงการเป็นชาวมุสลิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ไม่เป็นไร เพราะคุณอาจจะเป็นกลุ่มที่ต้องการได้ยอดไลก์ยอดแชร์ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเกาะปันหยีมีคนมาเที่ยววันละ 3-4 พันคน พวกเราพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราชาวเกาะปันหยีไม่อยากจะแก้ตัว แต่เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนที่พวกเราจะต้องช่วยกันดูแลและจะต้องทบทวนปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในโซเชียลขึ้นอีก
“ผมไม่ได้แก้ตัว และแก้ต่างในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในสภาพความเป็นจริงจะต้องให้ความยุติธรรมกับพวกเราชาวเกาะปันหยีด้วย ว่าเราไม่ได้โก่งราคา ไปสอบถามราคาได้ แต่ถ้าจะเอามัน ไม่ไหว ต้องขอโทษด้วย สิ่งที่ผมกล่าวไปในบางสิ่งบางอย่าง แต่ในฐานะที่เป็นผู้นำเราระมัดระวังพื้นที่ของเราที่เกิดมากว่า 200 ปีแล้ว ทำท่องเที่ยวมาเกือบ 70 ปี เรากลัวอยู่แล้วในเรื่องของผลกระทบและเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยว เราน้อมรับที่จะให้คุณติเตียนพวกเราได้ แต่ไม่ใช่ด่าจนรับไม่ได้ในบางสิ่ง เราไม่ตอบโต้ แต่หากคุณเยอะกว่านี้ ผมจำเป็นต้องใช้ช่องทางของข้อกฎหมายเพื่อที่จะแก้ไข รักษาไว้ซึ่งความเป็นมุสลิมของพวกเรากว่า 1,800 ชีวิต บนเกาะปันหยี” รองนายก อบต.เกาะปันหยี กล่าวในที่สุด