พังงา - ชาวบ้านถ้ำทองหลางเฮลั่น! ผลตรวจสอบที่ดินจุดเช็กอิน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เหมืองหินถ้ำทองหลาง อ.ทับปุด จ.พังงา ไม่ใช่ที่ดินเอกชน เตรียมประกาศเป็นป่านันทนาการ ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน
นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ส.ส.ภูเก็ต ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่จุดชมวิว เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง ในพื้นที่ ต.ถ้ำทองหลาง อ.ทับปุด จ.พังงา ที่มีความสวยงามของบึงน้ำสีฟ้าขนาดใหญ่ริมภูเขา และทิวป่าสน จนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว จนให้สมญานามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อติดตามปัญหาข้อร้องเรียนจากประชาชนที่ต้องการให้ตรวจสอบพื้นที่ หลังจากเอกชนติดป้ายว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้า
จากนั้นได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อพิพาทกรณีแหล่งท่องเที่ยวเหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กลุ่มรักษ์บ้านเกิด และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ซึ่งมีประเด็นเรื่องการตรวจสอบที่ดินขุมน้ำดังกล่าว ที่ทางเอกชนได้อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 130 และ 136 ออกให้ในปี 2514 กระทั่งมีการให้ที่ดินเข้ารังวัด ที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 136 เพื่อออกเอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 ก. เลขที่ 48 จำนวน 38 ไร่ 12 ตารางวา ในปี 2552
ขณะที่ทางเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงาได้แจ้งว่า ได้มีการรังวัดจนทราบว่า ที่ดินเอกสารสิทธิดังกล่าวห่างจากจุดขุมน้ำระยะกว่า 300 เมตร ขณะที่ทางป่าไม้จังหวัดพังงา ได้ทำหนังสือแจ้งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เตรียมดำเนินการแจ้งผู้ประกอบการนำป้ายและรั้วลวดหนามที่กั้นไว้ออก และดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ทุกฉบับ หากเอกชนได้ทำผิดกฎหมาย พร้อมเตรียมจัดตั้งป่านันทนาการ รองรับการท่องเที่ยวต่อไป
นายฐิติกันต์ กล่าวว่า ตามที่ประชาชนยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบที่ดินเหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง ที่ถูกภาคเอกชนปิดกั้นห้ามเข้าโดยอ้างถึงกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวนั้น ทางจังหวัดพังงาตรวจสอบพบว่า เป็นที่ดินเขตป่าไม้ หลังจากนี้จะมีการดำเนินการให้เอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์รื้อถอนลวดหนามและสิ่งปิดกั้นต่างๆ ออกไป พร้อมกับขอให้ทางกรมป่าไม้ประกาศเป็นพื้นที่ป่านันทนาการ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวส่งเสริมการประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้ชาวบ้านต่อไป
ส่วนกรณีที่เอกชนเสนอขออนุญาตทำเหมืองหินบริเวณบ้านในวังนั้น ได้มีชาวบ้านออกมาคัดค้าน พบว่าขั้นตอนการขออนุญาตยังอยู่ในระหว่างเริ่มต้น ส่วนประกาศทางสำนักงานอุตสาหกรรมเป็นเพียงประกาศเขตพื้นที่ที่สามารถทำเหมืองหินได้เท่านั้น ไม่ได้ออกใบอนุญาตในการทำเหมืองหิน ซึ่งทางจังหวัดและกรรมาธิการจะได้รวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อพิจารณาผลกระทบด้านต่างๆ ต่อไป
