xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ระบุประชาชนไม่ขัดสร้างอุโมงค์ทางลอดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี แต่ห่วงน้ำท่วมย้ำหน่วยงานรับผิดชอบดูแลให้ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต -นายกรัฐมนตรี ควงสุริยะ พบประชาชน รับฟังความคิดเห็นการสร้างอุโมงค์ทางลอดสี่แยกท่าเรือ อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ติดตามปัญหาน้ำท่วม รถติด เผยชาวบ้านไม่ขัดข้อง แต่ห่วงเรื่องน้ำท่วมในอุโมงค์



วันนี้ (5 ก.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร พร้อมรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทางลอดสี่แยกท่าเรือ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับทางหลวงหมายเลข 4027 (แยกท่าเรือ) เพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาการจราจร และ ปรับปรุงภูมิทัศน์สี่แยกท่าเรือ โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ รวมทั้งนายเฉลิมพล เกิดทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีสุนทร รวมให้ข้อมูล

โดยนายเฉลิมพล กล่าวว่า ระหว่างที่มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์นั้นในส่วนของชาวบ้านและผู้ใช้รถมีความกังวลในเรื่องของปัญหาการจราจร ซึ่งเชื่อว่ามีรถติดอย่างแน่นอน และติดมากด้วย เพราะขณะนี้ยังไม่มีการก่อสร้างปัญหารถติดก็เป็นปัญหาหนักอยู่แล้ว โดยเฉพาะเส้นทางที่จะไปป่าคลอก เพราะเส้นนี้ไม่มีทางเลี่ยง นอกจากนั้น ยังมีความกังวลในเรื่องของน้ำท่วมในอุโมงค์ เรื่องของการดูแล ซึ่งปัจจุบันอุโมงค์ที่มีอยู่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังเกิดขึ้น จึงอยากให้มีการดูแลให้ดี นอกจากนั้น ยังมีปัญหาในเรื่องของน้ำท่วมถนนสายหลัก เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นทางผ่านของน้ำที่จะไหลไปอ่างเก็บน้ำ เมื่อฝนตกหนักจะทำให้น้ำท่วมถนน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีปัญหาน้ำท่วมถนนเป็นอัมพาต 6 ชั่วโมง


การทำอุโมงค์อาจจะทำให้น้ำท่วมในอุโมงค์ได้ถ้าเกิดฝนตกหนัก ชาวบ้านโดยรอบจะได้รับผลกระทบไปด้วย พร้อมระบุว่า ชาวบ้านไม่ได้ติดขัดในเรื่องของการขุดอุโมงค์ แต่ในการก่อสร้างจะต้องหามาตรการรองรับเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ไปดูในเรื่องของการทำคูคลองเพื่อระบายน้ำด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซาก ภูเก็ตนักท่องเที่ยวมามาก แต่การพัฒนาเพื่อรองรับยังตามไม่ทัน

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับฟังปัญหาของตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมารับฟังปัญหาของชาวบ้านในเรื่องของการขุดอุโมงค์และติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในเบื้องต้น พบว่าในเรื่องของการขุดอุโมงค์ทางลอดอนุสาวรีย์นั้นชาวบ้านไม่ได้ขัดข้อง แต่มีความเป็นห่วงในเรื่องของปัญหาน้ำท่วมในอุโมงค์และชุมชนโดยรอบ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทั้งเรื่องของน้ำท่วมและการจราจรติดขัด และดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น


สำหรับโครงการก่อสร้างทางลอดสี่แยกท่าเรือ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับทางหลวงหมายเลข 4027 (แยกท่าเรือ) เพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาการจราจร และปรับปรุงภูมิทัศน์สี่แยกท่าเรือนั้น เป็นโครงการที่กรมทางหลวงเข้ามาดำเนินการ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยโครงการนี้ใช้งบประมาณค่าก่อสร้างเบื้องต้น 2,365 ล้านบาท เนื่องจากรูปแบบการปรับปรุงบริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร โดยรูปแบบการเข้าออก เพื่อสักการะองค์อนุสาวรีย์จะเป็นรูปแบบอุโมงค์ทางเดินลอด จึงมีความจำเป็นต้องทำการเวนคืนในโครงการ เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างทางขึ้นลงรวม 1,574 ตร.ม.

แบ่งเป็นพื้นที่หัวมุมห้างโรบินสัน 967 ตร.ม. และพื้นที่หัวมุมห้างขายปลีกเครื่องประดับ 607 ตร.ม. รูปแบบโครงการเป็นทางลอดขนาด 3 ช่องจราจรลอดใต้อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ในแนวทางหลวงหมายเลข 402 ทิศทางออกนอกเมืองจะมี 2 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.25 เมตร และทิศทางเข้าเมืองจะมี 1 ช่องจราจรความกว้าง 4.50 เมตร ส่วนด้านบนจะมีทางขนานฝั่งละ 2 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.00 เมตร มีทางเท้ากว้าง 2.1-2.7 เมตร และด้านบนทางลอดคงรูปแบบวงเวียนขนาด 2 ช่องจราจร วนรอบอนุสาวรีย์


พร้อมออกแบบระบบสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยกเพื่อความปลอดภัยโดยการออกแบบยกระดับลานอนุสาวรีย์ด้านบนให้สูงขึ้นจากระดับถนนประมาณ 0.90 ม. พร้อมกับยกฐานองค์อนุสาวรีย์ขึ้น เพื่อให้มีความสง่างาม สวยงาม และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ทาง และออกแบบให้มีทางเดินลอดเพื่อบริการประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะองค์อนุสาวรีย์ และสามารถไปอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างปลอดภัย โดยมีจุดขึ้นลงทางลอดหน้าห้างขายปลีกเครื่องประดับ เซาท์อีสต์ เอเชีย คาเธ่ย์ เจมส์ ภูเก็ต และที่ห้างโรบินสัน

ส่วนอาคารจุดขึ้นลงจะมีบันได ลิฟต์สำหรับบริการประชาชนทุกวัย และจัดพื้นที่ลานสักการะให้เปิดโล่งบางส่วน และอยู่ระดับเดียวกับหลังคาทางลอด เพื่อปรับภูมิทัศน์ด้านบนให้ดูโล่ง ไม่ดูวุ่นวาย สร้างทัศนวิสัยที่ดีแก่ผู้ใช้เส้นทาง และส่งเสริมให้องค์อนุสาวรีย์มีความสง่างาม ส่วนพื้นที่ภายในอนุสาวรีย์ ประกอบด้วย 1.โถงอเนกประสงค์ (จัดแสดงเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ได้) 2.ลานสักการะองค์อนุสาวรีย์ (กดลงที่ระดับหลังคาทางลอด) 3.ทางเดินลอด 4.ห้องเครื่องงานระบบไฟฟ้า-เครื่องกล และ 5.ทางออก เช่น บันไดหรือประตูหนีไฟ เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจราจรและการขนส่งให้สามารถเดินทางสะดวก รวดเร็ว


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายกรัฐมนตรี และ คณะ หลังจากรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้ว ในช่วงบ่ายวันเดียวกันมีกำหนดการเดินทางไปตรวจสอบติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ดินถล่มที่บ้านหัวควน ต.กมลา จ.ภูเก็ต ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น