สุราษฎร์ธานี - เทศบาลนครเกาะสมุยลงนาม MOU ใช้ระบบกล้อง CCTV 1,044 ตัว ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวกว่า 300 จุด และ ครอบคลุม 2 สถานีตำรวจบนเกาะสมุย ยกระดับดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว
วันนี้ (2 ก.ค.) นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ได้ลงนาม MOU บูรณาการการใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV จำนวน 1,044 ตัว เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวรอบพื้นที่เขตอำเภอเกาะสมุย ระหว่างเทศบาลนครเกาะสมุย ตำรวจ สภ.เกาะสมุย และ สภ.บ่อผุด โดยมี พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ งามสีอ่อน ผกก.สภ.เกาะสมุย พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.สภ.บ่อผุด พ.ต.ต.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ร่วมลงนาม ณ ห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย กล่าวว่า ในข้อตกลงดังกล่าว เทศบาลนครเกาะสมุย เป็นหน่วยดำเนินการติดตั้ง ดูแลและบำรุงรักษาระบบกล้องโทรทัศน์ให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชน สามารถใช้ตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทางคดี
ขณะที่ พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ งามสีอ่อน ผกก.สภ.เกาะสมุย กล่าวว่า ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV จะส่งผลดีต่อประชาชน และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากกำลังพลไม่สามารถทำงานได้ตลอดเวลา แต่การติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบการกระทำผิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอาชญากรรม ความผิดเรื่องการจราจร ที่จะทำให้การปฏิบัติงานของตำรวจครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น ซึ่งแต่ละเดือนมีการใช้ข้อมูลทางคดีอาญาจำนวนมาก ดังนั้น การมีกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำข้อมูลไปใช้ประกอบคดีเพื่อพิจารณาความผิดที่เกิดขึ้นได้มาก และสามารถตรวจติดตามดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน น.ส.สุภิญญา ศรีทองกุล รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในเกาะสมุย ให้มีความปลอดภัยและมีความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว ซึ่งการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV จำนวน 1,044 กล้อง ครอบคลุม 300 กว่าจุด ในแหล่งท่องเที่ยว และยังมีแผนในการขยายจุดตำแหน่งการติดตั้งกล้อง CCTV ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ รูปแบบการให้บริการกล้องวงจรปิดของเทศบาลที่ผ่านมา ประชาชนผู้ขอใช้บริการต้องมายื่นคำร้องในการขอดู และใช้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด แต่ภายใต้ MOU ฉบับใหม่นี้ เพื่อให้การบริการประชาชนมีประสิทธิภาพ และสะดวก รวดเร็ว ง่ายต่อประชาชน จึงได้มีการทำบันทึกความร่วมมือกับสถานีตำรวจทั้ง 2 สถานี เพื่อให้ประชาชนเมื่อมีปัญหาสามารถขอดูข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่สถานีตำรวจภูธรทั้ง 2 แห่งได้เลย ไม่ต้องใช้บันทึกแจ้งความแล้วต้องมาที่เทศบาลอีกครั้ง ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้น