นครศรีธรรมราช - หนุ่มโคราชนอนเก็บตัวอยู่ในสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชมาแล้ว 5 วัน สุดท้ายเครียดหนักหาทางออกไม่ได้ กระโดดให้ขบวนรถไฟทับร่างขาดสองท่อนเสียชีวิตทันที ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่ตกตะลึงต่อเหตุที่เกิดขึ้น
วันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 16.00 น. ที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ชานชาลาที่ 1 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังจากรับแจ้งจากนายฤทธิเดช รอดศรี นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ว่า มีคนฆ่าตัวตายโดยกระโดดให้รถไฟทับร่างจนขาดสองท่อน เมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างชายสภาพไม่สวมเสื้อ สภาพศพขาดแยกกันสองท่อนช่วงบั้นเอว ส่วนขบวนรถที่เกิดเหตุคือ ขบวนที่ 86 นครศรีธรรมราช-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีกำหนดออกจากสถานีนครศรีธรรมราชเวลา 16.00 น.
ในขณะเกิดเหตุ ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งถ่ายภาพเอาไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นจังหวะที่มาส่งเพื่อนขึ้นโดยสารรถไฟขบวนนี้ได้บันทึกภาพขณะที่ตู้โดยสารชั้น 1 ที่เพื่อนโดยสารกำลังเคลื่อนขบวนออกจากสถานี ปรากฏว่า ชายรายนี้ได้ตรงเข้ามาพยายามกระโดดเข้าไปขวางล้อรถไฟจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที ในขณะที่ผู้บันทึกภาพร้องเสียงหลงกับเหตุการณ์สยองขวัญที่เกิดขึ้นต่อหน้า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานประจำตัวพบว่า มีกระเป๋าและสัมภาระของผู้ตายตั้งอยู่บนเก้าอี้ในที่พักบนชานชาลาห่างไปราว 600 เมตร มีเสื้อผ้าและเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อนายมานพ มากวงศ์ อายุ 46 ปี เป็นชาวหมู่ 3 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ด้านพนักงานดูแลความสะอาดขบวนรถ เปิดเผยว่า ชายรายนี้อาศัยอยู่ที่สถานีมาได้ 5-6 วันแล้ว อยู่ในสภาพที่เครียดหนัก ก่อนหน้าได้อยู่ตอนหน้าของสถานี ทางเดินของผู้โดยสาร พนักงานจึงบอกให้มาอยู่ด้านในจะได้ไม่เป็นที่ไม่สบายตาของผู้โดยสาร จึงมาอยู่ในที่นั่งพักผู้โดยสารและผู้มารอรับแนวสุดท้าย ก่อนเกิดเหตุเขากระโดดพุ่งเข้าใส่ขบวนรถขณะที่ขบวนกำลังเคลื่อนออกจากสถานีตามเวลาโดยเจตนาต่อหน้าหลายๆ คน ทำให้ต่างตกตะลึง ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ด้วยล้อรถได้บดร่างทับไปจนขาดสองท่อนเสียชีวิตทันที พนักงานจึงวิทยุให้ พขร.หยุดขบวน
นายฤทธิเดช รอดศรี นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ได้พยายามเร่งแก้ปัญหาความล่าช้าของขบวนรถโดยมีความล่าช้าจากปกติไปกว่า 1 ชั่วโมง และพยายามให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเคลื่อนย้ายร่างก่อนที่จะเร่งเคลื่อนขบวนไปก่อนตาม พ.ร.บ.การเดินรถ แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่กล้าดำเนินการต้องรอพนักงานสอบสวนสั่งการ เนื่องจากการเดินทางมามีความล่าช้าจากการจราจร แต่ในสุดหลังจากขบวนรถต้องล่าช้าไปกว่า 1.30 ชั่วโมง จึงเคลื่อนขบวนออกไปได้
ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ได้กู้ออกมาเพื่อฝากรอญาติ และพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน เนื่องจากไม่ใช่เป็นการเกิดอุบัติเหตุ แต่เป็นการอัตวินิบาตกรรมของผู้ตาย