ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สวนน้ำดังภูเก็ตใช้งบลงทุนกว่า 1.5 พันล้าน บาทประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 70% ปิดให้บริการ Blue Tree Lagoon เหลือเฉพาะ Lifestyle Village มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 นี้ พร้อมเตรียมปรับแผนธุรกิจใหม่ ก้าวเข้าสู่บริการด้านสุขภาพ
กลายเป็นกระแสดัง สร้างความตื่นตกใจให้คนภูเก็ตเป็นอย่างมาก หลังบลูทรี ภูเก็ต (Blue Tree Phuket) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจยักษ์ใหญ่ในด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ บริการทั้งสวนน้ำ และอื่นๆ อีกหนึ่งแลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล ทำเลทองของภูเก็ต
ได้ออกแถลงการณ์ปรับแผนธุรกิจและยุติการให้บริการในส่วนสวนน้ำ Blue Tree Lagoon โดยระบุว่า Blue Tree Phuket ขอเรียนแจ้งการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุกิจครั้งสำคัญ รวมถึงการตัดสินใจยุติการให้บริการ Blue Tree Lagoon โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การพิจารณารูปแบบการดำเนินงานอย่างรอบคอบ และความมุ่งมันของบริษัทที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้บริการ
แม้ว่า Blue Tree จะมีวิสัยทัศน์อันแน่วแน่และได้ลงทุนเป็นจำนวนไม่น้อยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2562 แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้บริการ ส่งผลให้บริษัทจำเป็นต้องตัดสินใจปรับเปลี่ยนโครงสร้างและทิศทางการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญ
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างนี้ทำให้เราจำเป็นต้องยุติการว่าจ้างบุคลากรกว่า 70% ของจำนวนบุคลากรปัจจุบัน บริษัทตระหนักเป็นอย่างดีถึงผลกระทบนี้รุนแรงของการตัดสินใจดังกล่าวที่จะส่งผลต่อกลุ่มบุคลากร ซึ่งล้วน เป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้แก่ครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่ Blue Tree Phuket ตลอดระยะเวลาการให้บริการ
ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมีความตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนแก่พนักงานทั้งหมดอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ Blue Tree จึงเตรียมปรับรูปแบบการดำเนินงานสู่แนวคิดใหม่ที่มุ่งเน้นแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับบริการด้านสุขภาพ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต ไปจนถึงการเชื่อมต่อทางสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งผู้อาศัยในพื้นที่และนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม แม้ Blue Tree Lagoon จะยุติการให้บริการ แต่พื้นที่อื่นๆ ภายใน Blue Tree Phuket จะยังคงเปิดให้บริการตามปกติ นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนร่วมติดตามการเปิดตัวสิ่งอำนวยความสะดวกที่ปรับโฉมใหม่ภายในโซน Lifestyle Village อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในครั้งนี้ โดยเตรียมพร้อมนำเสนอกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับครอบครัว ทั้งการชอปปิ้ง ร้านอาหาร และพื้นที่กิจกรรมอื่นๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งรวมไปถึงร้านเสื้อผ้า กิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ เช่น ยูโด มวยไทย พร้อมพื้นที่กลางแจ้งสำหรับจัดแสดงคอนเสิร์ต ซึ่ง Lifestyle Village นี้จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่สำหรับทุกคน
บริษัทขอขอบคุณอย่างยิ่งต่อความเข้าใจและการสนับสนุนจากแขกผู้มีอุปการคุณและพันธมิตรทุกท่านในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้
บริษัทจะรายงานความคืบหน้าเกียวกับแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับบริการด้านสุขภาพให้ทุกท่านทราบเมื่อบริษัทได้ข้อสรุป และมีข้อมูลเพิ่มเติม โดยเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะก้าวสู่บทบาทใหม่นี้ และยังคงมุ่ง มั่นที่จะส่งมอบประสบการถอันยอดเยี่ยมให้ทุกท่านที่เข้าใช้บริการ Blue Tree Phuket ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนของทุกท่าน
สำหรับบลูทรี ภูเก็ต” (Blue Tree Phuket) ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กแห่งการพักผ่อนและแหล่งความบันเทิงครบวงจร หรือ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์’ (Entertainment Complex) แห่งแรกในภูเก็ต พร้อม “บลูทรี ลากูน” (Blue Tree Lagoon) ทะเลสาบยิ่งใหญ่จากสหรัฐฯ ด้วยเงินลงทุนกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 140ไร่ เปิดให้บริการเมื่อช่วงปลายปี 2562
สำหรับ “บลูทรี ภูเก็ต” เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ระดับเวิลด์คลาสสำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะมาเยือนประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" แห่งแรกของภูเก็ต บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่บริการด้านการพักผ่อนและศูนย์รวมกีฬาทางน้ำอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบีชคลับ 4 ชั้น ฟิตเนสโซน คิดส์คลับ
โดยมีมหาสมุทรสไตล์ลากูนขนาดใหญ่กว่า 17,000 ตารางเมตร ก่อสร้างโดยคริสตัล ลากูนส์ (Crystal Lagoons) บริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมลากูนยักษ์ใหญ่ ล้อมรอบด้วยชายหาดเทียมและมีกิจกรรมมากมาย เช่น สนามเด็กเล่นน้ำ สลิปแอนด์ฟลาย (Slip N Fly) สไลเดอร์ยักษ์ที่น่าตื่นเต้น สแปลชโซน (Splash Zone) กิจกรรมไต่หน้าผา นอกเหนือจากนี้ บลูทรี ลากูน ยังใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อรักษาความใสของน้ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้สารเคมีน้อยกว่า 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่าระบบสระว่ายน้ำธรรมดาถึง 50 เท่า
อย่างไรก็ตามรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าของสำหรับ “บลูทรี ภูเก็ต” เป็นชาวต่างชาติ ทายาทเจ้าของแบรนด์นาฬิกาดังระดับโลก