(ชมคลิป) ศูนย์ S-WIC ราชภัฎภูเก็ต ศึกษาวิจัย-เพิ่มมูลค่า “ส้มควาย” พืช GI –กระเจี๊ยบเขียว สู่ 5 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แบรนด์ “SWIC by PKRU”

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศูนย์นวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ (S-WIC) มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ศึกษาวิจัยและเพิ่มมูลค่า “ส้มควาย” พืช GI ภูเก็ต และกระเจี๊ยบเขียว สู่ 5 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย แบรนด์ “SWIC by PKRU” นำเสนอสู่โรงแรมและสปามาตรฐานระดับสากล




ดร.พุทธพร บุญณะ ประธานกรรมการศูนย์นวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ (S-WIC) มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เปิดเผยว่า ศูนย์นวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย ภายใต้แบรนด์ SWIC by PKRU โดยการนำพืชพื้นถิ่นของจังหวัดภูเก็ต คือ ส้มควาย และกระเจียบเขียว โดยเฉพาะส้มควาย ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นที่ได้รับ GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI: Geographical Indication) สู่การเพิ่มมูลค่าด้วยมาตรฐานสากล ตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตที่จะมุ่งพัฒนาและยกระดับสินค้าท้องถิ่นและชุมชน


โดยมีศูนย์นวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ เป็นผู้ขับเคลื่อนและการถ่ายทอดองค์ความรู้ (KM) บริการวิชาการสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยได้ตั้งโจทก์ที่จะพัฒนาพืชพื้นถิ่นภูเก็ต ทั้งส้มควายและกระเจี๊ยบเขียว เป็นสารตั้งต้นในการผลิตภัณฑ์สปาสู่แบรนด์ในระดับสากล จึงได้ทำการศึกษาวิจัยและออกเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย ภายใต้แบรนด์ SWIC by PKRU ภายใต้แนวคิด “Senses of Locality ในเฟสที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย 5 ผลิตภัณฑ์ คือ


สบู่ในรูปแบบเจล โลชั่นผิวกาย น้ำมันนวด สครับผิวกาย และ มาร์คผิวหน้า ที่มีสารสกัดจากส้มควายและสารสกัดจากดอกกระเจี๊ยบเขียว เป็นสารตั้งต้นหลักปรับและแก้ไขสูตร ส่วนประกอบ คุณประโยชน์ เนื้อสัมผัส และกลิ่นของผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. และได้ผ่านการทดสอบความคงตัวทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์แล้ว


และทางศูนย์นวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้มีการปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง และพร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์สู่โรงแรมและสปาที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นสู่มาตรฐานสากลต่อไป


ดร.พุทธพร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯมีโครงการที่จะศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสารตั้งต้นจากส้มควายและกระเจี๊ยบเขียวในเฟสต่อไป เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า แต่ทั้งนี้จะต้องรอดูผลตอบรับในเชิงพาณิชย์ของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายในเฟสแรกก่อนว่าเป็นอย่าไรบ้าง โดยในส่วนของเฟสต่อไปนั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา ทั้งในส่วนของงานทางวิชาการและเชิงพาณิชย์ ตามแผนที่วางไว้นั้นน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี ทั้งส่วนของการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์