พังงา- เริ่มแล้วงาน TTM+ 2024 โชว์ศักยภาพท่องเที่ยวไทย ดึง 425 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเจรจาธุุรกิจ คาดทำรายได้หมุนเวียนกว่า 3 พันล้านบาท มีการนัดหมายธุรกิจ 15,000 ธุรกิจ
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ Thailand Travel Mart Plus 2024 (TTM+ 2024) จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2567 ณ โรงแรม JW Marriott Khao Lak Resort & Spa จังหวัดพังงา โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 430 ราย เข้าร่วมนำเสนอสินค้าและบริการ
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กล่าวว่า การผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค หรือ Tourism Hub ภายใต้นโยบาย IGNITE Tourism Thailand ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่รัฐบาลจะต้องเร่งขับเคลื่อนปัจจัยความสำเร็จทุกมิติอย่างเต็มกำลัง โดยการจัดงาน Thailand Travel Mart Plus 2024 (TTM+ 2024) ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในการสะท้อน ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยว และการยกระดับประสบการณ์ตลอดการเดินทางของนักท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นการโชว์ศักยภาพของจังหวัดพังงาและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และคุณภาพของสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทยที่มีความพร้อมในระดับสากล เพื่อจะบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้
ขณะที่ นาฝ.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า TTM+ ถือเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวแบบ Business to Business (B2B) ระดับนานาชาติที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือจากภาคเอกชนและผู้สนับสนุนต่างๆ ได้แก่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา คิง เพาเวอร์ ไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด สยามพิวรรธน์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา
โดย ททท. ได้เชิญ 425 ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวรายสำคัญจากทั่วโลก (Buyer) เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับ 430 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย (Seller) เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายสอดคล้องกับแคมเปญ Amazing Thailand, Your Stories Never End เช่น Luxury Travel, Wellness Tourism, Soft Adventure
โดยมีหัวใจสำคัญในการจัดงานอย่างคำนึงถึงความยั่งยืน (Sustainability) ในทุกมิติ ทั้งกำหนดรูปแบบการจัดงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนส่วนลดเข้าร่วมงาน แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Award 2023 TAT STAR CF Hotels (Carbon Footprint Hotels) ของ ททท. รวมทั้งนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมงานให้ได้มากที่สุด เช่น E-badge และการนัดหมายผ่าน Mobile Application ตลอดจนการจัดการขยะ Zero Waste to Landfills ในพื้นที่จัดงาน และการคำนวณ Carbon Footprint
นอกจากนี้ ในวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็น World Environment Day และวันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งเป็นวัน World Ocean Day สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ยังได้ร่วมกับ ททท. จัดกิจกรรมเติม Carbon Credit “ปลูกป่าชายเลน” ให้แก่ Buyer จากต่างชาติอีกด้วย โดย ททท. เชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสความประทับใจจากประสบการณ์การท่องเที่ยวไทย และพร้อมบอกต่อสู่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างไม่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม นอกจากกิจกรรมเจรจาธุรกิจแล้ว ยังมีกิจกรรมไฮไลต์อื่นๆ เริ่มต้นที่ TTM Talk โดย ททท. เชิญ Vicki Victoria Loomes จาก Trendwatching ร่วมบรรยายภายใต้หัวข้อ Navigating Tomorrow Global Consumer Trends Reshaping the Tourism Industry และเชฟตาม ชุดารี เทพาคา เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเจ้าของตำแหน่ง Top Chef Thailand ให้เกียรติบรรยายในหัวข้อ “Thailand’s Gastronomic Journey : Towards a Sustainable Food Future”
ต่อมาคือ กิจกรรม Thailand Product Update ฉายภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทย ที่จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังจัดนิทรรศการด้านดิจิทัลและนวัตกรรมทางการท่องเที่ยว (Booth Exhibition) ได้แก่ Travel Tech นำเสนอ Virtual Mode สนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มเว็บไซต์ thaitravelmart.com และบูทของพาร์ตเนอร์สำคัญด้านการท่องเที่ยว อย่างแอปพลิเคชัน TAGTHAI และ Blue D Zine และพลาดไม่ได้กับ Product Showcase และ Workshop นำเสนอ “เสน่ห์ไทย” และ “Local Product” ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพังงาและจังหวัดอื่นๆ
เพื่อสร้างประสบการณ์เชื่อมโยงแก่ผู้ร่วมงาน เช่น Try & Taste คัดสรรเมล็ดพันธุ์กาแฟและชาคุณภาพจากชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทย เช่น ชิมกาแฟโบราณจากร้านโกปี๊กั่วป่า ชิมชาออแกนิกและชาสมุนไพร จากสวรรค์บนดิน จังหวัดเชียงราย และบ้านใบ จังหวัดพังงา กิจกรรม DIY ทำช็อกโกแลตบาร์จากเมล็ดโกโก้ เช่น Cocoa Valley จ.น่าน One More Chocolate นครศรีธรรมราช และการเพนต์ผ้าบาติกจากศิริพรบาติก กิจกรรมร้อยลูกปัดและผลิตภัณฑ์ชุมชนมอแกน จาก The Moken Eco Village และกิจกรรมเพนต์ Surfboard Magnet
ทั้งนี้ ททท. คาดหวังว่าการจัดงาน TTM+ 2024 ครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 นัดหมาย และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการเจรจาธุรกิจมากกว่า 3,000 ล้านบาท และกระจายรายได้สู่ชุมชน ท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท