สุราษฎร์ธานี - เกิดเหตุสลด! ลูกยิงพ่อวัย 64 ดับคาสวนยางพาราเหตุจากปัญหาการขายขี้ยางจนถึงขั้นลงมือชกต่อย พ่อสู้ไม่ได้ชักปืนที่พกติดตัวมายิงใส่ ลูกแย่งปืนยิงสวน สุดท้ายพ่อดับ ลูกเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 11.55 น. วันนี้ (5 มิ.ย.) พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว ผกก.สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายในสวนยางพารา บริเวณสามแยกบ้านต้นสะหมอ ม.10 ต.บางงอน อ.พุนพิน จึงรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อ นายวีรวัตร์ ขวัญเฉื่อย อายุ 64 ปี สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ต้นขาด้านขวา 1 นัด จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ในรังเพลิงมีกระสุนจำวน 6 นัดที่ยิงไปแล้ว 4 นัด นอกจากนั้น พบกระเป๋าบรรจุลูกกระสุนปืนจำนวนหนึ่งและซองบรรจุปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายสุภชัย ขวัญเฉื่อย อายุ 38 ปี เป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต ถูกยิงด้วยปืนกระบอกเดียวกัน ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลพุนพินไปก่อนหน้านี้
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายได้แยกทางกับภรรยาไปมีภรรยาใหม่อาศัยอยู่ในตัวเมือง นานๆ ผู้ตายถึงจะเข้ามายังสวนยาง แต่ได้มอบหมายให้ลูกชายดูแล แต่มาระยะหลังผู้เป็นพ่อกับลูกไม่ค่อยลงรอยกัน มักมีปากเสียงกันในเรื่องการเงินที่ขายผลผลิต และเมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุผู้เป็นพ่อได้เข้ามายังสวนและกำลังเจรจาขายขี้ยางกับพ่อค้ารับซื้อขี้ยาง และในเวลาเดียวกันนายศุภชัย ลูกชายได้เข้ามา จนมีปากเสียงถึงขั้นลงมือชกต่อยกัน ผู้เป็นพ่อสู้ไม่ได้ จึงชักปืนที่พกติดตัวมายิงใส่ลูกจนได้รับบาดเจ็บ ลูกชายจึงกระโดดเข้าแย่งปืนและยิงใส่ไป 2 นัด ล้มลงเสียชีวิต ส่วนตัวเองได้รับบาดเจ็บถูกญาตินำตัวส่งโรงพยาบาล
ในขณะที่ นายริ้น คนงานกรีดยางของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันเดียวกัน ขณะที่ตนกำลังเก็บขี้ยางอยู่ภายในสวนพร้อมกับเพื่อนคนงานรวมกัน 3 คน ผู้ตายซึ่งเป็นนายจ้างกำลังพูดคุยกับคนรับซื้อขี้ยางเพื่อจะขายขี้ยางอยู่นั้น ลูกชายนายจ้างได้เข้ามาและมีปากเสียงชกต่อยกัน ตนพร้อมเพื่อนคนงานจึงวิ่งหนีไปท้ายสวน และเวลาต่อมาได้ยินเสียงปืนดังจำนวนหลายนัด จึงวิ่งไปบอกคนงานของน้องชายนายจ้างให้เข้ามาดูเหตุการณ์ สำหรับนายจ้างมีสวนยางกว่า 100 ไร่ และสวนทุเรียนอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ค่อยเข้ามายังสวนนานๆ มาครั้ง ด้วยเหตุไม่ค่อยถูกกับลูกชาย และวันนี้เป็นวันแรกที่ไม่เข้ามายังสวนเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน