ชุมพร - มาตามนัด ชาวสวนปาล์มชุมพรบุกศาลากลาง พร้อมทอดไข่ฟองละ 4.5 บาท น้ำมันขวดละ 55 บาท ให้ผู้ว่าฯ กิน ประกาศลั่นขายไม่ได้ตามราคาที่รัฐกำหนด 4.5 บาท นำผลปาล์มมาเทหน้าศาลกลางและเตรียมชุมนุมใหญ่อีกครั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (30 พ.ค.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ นายโสภณ สงวนเชื้อ แกนนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน พร้อมเกษตรการกว่า 100 คน ได้มารวมตัวเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ถึงนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากสถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันมีราคาตกต่ำกิโลกรัมละ 3 บาทกว่า ขณะที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้เข้ามาช่วยเหลือใช้มาตรการทางกฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการ โรงงานต้องรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในกิโลกรัมละ 4.50 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวสวนปาล์ม
โดยขอให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกรายดำเนินการตามมติที่ประชุมดังกล่าว หากพบว่ามีการรับซื้อผลปาล์มในราคาที่ไม่สอดคล้องกับคุณภาพและราคาน้ำมันปาล์มดิบ จะเข้าข่ายเป็นการจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาสินค้า มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 150,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 29 และโทษตามมาตรา 41 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
สำหรับมาตรการดังกล่าวของกรมการค้าภายในที่กำหนดให้โรงงาน ผู้ประกอบการลานปาล์มต้องรับซื้อผลผลิตกิโลกรัมละ 4.50 บาท ปรากฏว่าไม่มีอยู่จริง เนื่องจากโรงงาน ผู้ประกอบการยังรับซื้อผลผลิตอยู่ที่กิโลกรัมละไม่เกิน 3.50 บาท อีกทั้งลานปาล์มส่วนใหญ่ยังพากันปิดรับซื้ออีกด้วย
โดยการชุมนุมของชาวสวนปาล์มได้มีบรรดาแกนนำกล่าวผ่านเครื่องเสียงถึงปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว แม้แต่มาตรการของหน่วยงานรัฐที่จะช่วยเหลือเกษตรกรยังไม่สามารถบังคับใช้กับโรงงานและผู้ประกอบการได้จริง ทำให้ชาวสวนปาล์มเดือดร้อนอยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้น ยังมีการนำป้ายที่เขียนข้อความประชดถึงรัฐบาลและหน่วยงานเกี่ยวข้องด้วย เช่น “ปาล์ม 1 โล ซื้อไข่ได้ 1 ฟอง” “ไข่ลูกละ 4.80 บาท ปาล์มโลละ 3.50 บาท” “น้ำมันพืชขวดละ 55 บาท ปาล์มโลละ 3.50 บาท”
ต่อมาบรรดากลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่มารวมตัวกันได้นำเตาแก๊สปิคนิค กระทะ น้ำมันพืช ขวดละ 55 บาท ไข่ไก่ฟองละ 4.80 บาท มาทอดไข่ดาวที่หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อจะแจกให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือเรื่องราคาปาล์มตกต่ำด้วย เพื่อสะท้อนถึงกลไกการตลาด ที่นายทุน ผู้ประกอบการที่ร่ำรวยจากความเดือดร้อนยากจนของเกษตรกร
ต่อมา นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายวิชัย สุดสวาดิ์ ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้มาพบพูดคุยกับแกนนำและกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน พร้อมกับรับหนังสือข้อเรียกร้องในการช่วยเหลือชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำและขายไม่ได้จริงในราคาตามที่รัฐกำหนดมาตรการช่วยเหลือให้โรงงานและผู้ประกอบการรับซื้อ ผ่านไปถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ แกนนำชาวสวนปาล์มกล่าวกับชาวสวนปาล์มก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน ว่า นับตั้งแต่เวลานี้วันนี้ถ้าใครขายปาล์มไม่ได้กิโลกรัมละ 4.50 บาท ให้นำปาล์มมาที่ศาลากลางจังหวัด แล้วตนกับพาณิชย์จังหวัดจะไปสังเกตการขายให้พวกท่าน ถ้าไม่ซื้อจะดำเนินคดีตามมาตรการที่อธิบดีกรมการค้าภายในได้เซ็นคำสั่งไว้แล้ว ถ้าลานปาล์มไม่รับซื้อจะมีโทษไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเจ้าหน้าที่ไม่กำกับดูแลอาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้น และเกษตรกรชาวสวนปาล์มพร้อมจะกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง