สุราษฎร์ธานี - เพลิงปริศนาไหม้โรงงานกำจัดคัดแยกขยะมูลฝอย เทศบาลนครเกาะสมุย เจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงกว่า 50 คัน เข้าเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ด้านนายอำเภอเผยรอบบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับชุมชน
คืนวานนี้ (28 พ.ค.) เกิดเหตุเพลิงไหม้กองขยะของเทศบาลนครเกาะสมุย ที่บ
โรงงานกำจัดคัดแยกขยะมูลฝอย เทศบาลนครเกาะสมุย หมู่ที่ 5 ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่ง ดร.กัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย นายสุธรรม สามทอง รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย น.ส.สุภิญญา ศรีทองกุล รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.สภ.บ่อผุด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย มูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ศูนย์กู้ชีพกู้ภัยสมาคมสมุย หน่วยกู้ภัยวีอาร์วัดปลายแหลม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบ
พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุไฟไหม้อยู่ภายในโรงกำจัดขยะมูลฝอย ซึ่งมีขยะอยู่กว่า 1 แสนตัน เพลิงได้ลุกไหม้มาจากด้านใน กลุ่มควันลอยขึ้นหนาแน่น และกลิ่นเหม็นขยะลอยคละคลุ้ง ทาง นายสุธรรม สามทอง รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ได้สั่งระดมรถดับเพลิงในส่วนราชการทุกหน่วย และรถดับเพลิงของเอกชนทั้งเกาะสมุยกว่า 50 คัน ระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิง และสกัดไม่ให้เพลิงขยายวงกว้าง
จากการตรวจสอบทราบว่า พื้นที่เกิดเพลิงไหม้เป็นพื้นที่กำจัดคัดแยกขยะของเทศบาลนครเกาะสมุย ซึ่งมีขยะจำนวนกว่า 1 แสนตัน โดยมีบริษัทของเอกชนที่ประมูลงานทำการบรรจุบีบอัดขยะใส่ถุงบิ๊กแบ็กส่งข้ามไปบริษัทรับกำจัดขยะที่ฝั่งแผ่นดินใหญ่
ดร.กัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ภายหลังหลังจากเกิดเหตุได้มีการระดมรถดับเพลิงในส่วนของเทศบาลนครเกาะสมุย และในส่วนของภาคเอกชนทั้งหมดเพื่อฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ขยายวงกว้าง และระดมฉีดน้ำเลี้ยงไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีก เนื่องจากบริเวณกองขยะมีขยะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะส่งผลในเรื่องอัตราการเผาไหม้และอาจจะขยายลุกลามออกไป การเข้าไปควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ ช่วงเวลาเกิดเหตุ รวมถึงในเรื่องของรถดับเพลิงที่มีไม่เพียงพอ แต่ต้องหมุนเวียนนำน้ำเข้ามาในพื้นที่เพื่อฉีดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การควบคุมเพลิงจะต้องดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในเรื่องของควันไฟ เพราะบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อยู่ในพื้นที่สูงและบริเวณรอบข้างในรัศมี 2-3 กิโลเมตร อยู่ใกล้ใกล้กับชุมชน ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ ต้องรอเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง