xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการมรดกที่ดิน ส.ป.ก.หาดนุ้ย รุกยื่นหนังสือ ผบช.ภ.8 ให้โอนสำนวนคดีให้ ตร.8 ดำเนินคดี ตั้งกรรมการสอบ ย้าย ผกก.สภ.กะรน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้จัดการมรดกที่ดิน ส.ป.ก.เนื้อที่ 68 ไร่ หาดนุ้ย จ.ภูเก็ต รุกยื่นหนังสือ ผบช.ภ.8 ให้โอนสำนวนคดีทำร้ายร่างกายคู่กรณีพิพาทบุกรุกที่ดิน เชื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการเอื้อประโยชน์ พร้อมขอให้ย้าย ผกก.กะรน

วันนี้ (27 พ.ค.) นายชโลธร โชติพนัง หรือบอย ผู้จัดการมรดกที่ดิน ส.ป.ก. เนื้อที่ 68 ไร่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต (ตามคำสั่งศาล) ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับหาดนุ้ย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต และเป็นคู่กรณีกับผู้อ้างสิทธิครอบครองพื้นที่หาดนุ้ยพื้นที่ 18 ไร่ ที่มีการก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวดัง พร้อมด้วย น ส.ลดาวัลย์ มังสุรีย์ และทีมงาน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือ ถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผ่านทาง ฝ่ายอำนวยการ 1 กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อขอโอนสำนวนคดีอาญาที่ 198/2567 ลงวันที่ 24 พ.ค.2567 ของ สภ.กะรน และสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องให้เป็นอำนาจสืบสวนสอบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เนื่องจากเชื่อว่าการสืบสวนไม่เป็นไปตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา และไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อันเนื่องมาจากมีอิทธิพลนอกเหนือกฎหมาย

น.ส.ลดาวัลย์ มังสุรีย์ กล่าวภายหลังยื่นหนังสือ ว่า การเดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในครั้งนี้เนื่องจากมองว่าพวกตนอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องของการดำเนินคดี เนื่องจากวันที่เกิดเหตุทางผู้ร้อง และพวกเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินแปลง 18 ไร่ ที่หาดนุ้ย ที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุกผู้บุกรุก 4 ปี และขับไล่ออกจากที่ดิน แต่พบเห็นว่ามีคนของผู้บุกรุกกำลังลงรั้วลวดหนามบุกรุกเข้ามาในที่ดิน ส.ป.ก.ที่ทางผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก จึงมีปากเสียงกัน จนเป็นเหตุให้มีการชกต่อย


และหลังเกิดเหตุ ทาง ผกก.สภ.กะรน ให้ร้อยเวรออกหมายจับผู้ร้องในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งจึงได้เข้ามอบตัว และลงบันทึกประจำวันว่าการขอหมายจับเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ เป็นเหตุให้มีการระงับหมายจับ ซึ่งในส่วนของผู้ร้องได้สารภาพว่ามีการชกต่อยกับคู่กรณี เพราะเข้ามาบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.ของผู้ร้อง และยังยั่วยุชวนทะเลาะ ต่อมาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้มาสอบสวนด้วยตัวเองและมีการแถลงกับสื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมีเหตุทะเลาะวิวาทเนื่องจากมีปัญหาเรื่องแนวเหตุที่ดิน หลังจากนั้นทาง ผกก.สภ.กะรน ได้ให้พนักงานสอบสวนโทรศัพท์มาหาผู้ร้องเพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเป็นข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งผู้ร้องมอบว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะกระทำหน้าที่โดยมิชอบ และอาจจะไม่เกิดความเป็นธรรมกับผู้ร้อง จึงยื่นข้อเรียกร้องดังนี้ เพื่อความเป็นธรรม

1) ขอโอนสำนวนคดีอาญาที่198/2567 ของ สภ.กะรน และสำนวนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการบุกรุกชายหาดสาธารณประโยชน์ (หาดนุ้ย) ทั้งที่กรมป่าไม้เป็นผู้เสียหาย และในส่วนที่ ส.ป.ก. เป็นผู้เสียหาย เนื่องจากสำนวนคดีดังกล่าวมีความล่าช้า น่าเชื่อว่ามีการช่วยเหลือในเรื่องระยะเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้บุกรุกชายหาดสาธารณประโยชน์ จึงขอให้โอนสำนวนคดีดังกล่าวนี้ทั้งหมดของ สภ.กะรน ให้เป็นอำนาจสืบสวนสอบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เนื่องจากเชื่อว่าการสืบสวนไม่เป็นไปตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา และไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อันเนื่องมาจากมีอิทธิพลนอกเหนือกฎหมาย


2) ให้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย ผกก.สภ.กะรน จากกรณีการขอออกหมายจับ คดีทำร้ายร่างกายในคดีอาญาที่ 198/2567 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ของ สภ.กะรน จนผู้ร้องต้องใช้สิทธิลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันว่าการขอออกหมายจับ เป็นการออกหมายจับโดยขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 กล่าวคือ (1) คดีทำร้ายร่างกายมีโทษทางอาญาไม่เกินสามปี (2) เหตุหลบหนีและเหตุเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แม้ต่อมาจะมีการระงับการขอออกหมายจับ ก็ย่อมถือว่าความผิดได้สำเร็จแล้ว

3) ให้ตั้งกรรมการสอบวินัย ผกก.สภ.กะรน ที่หย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการตั้งคิวรถเถื่อน ตลอดทั้งให้รถ ATV ที่ไม่มีป้ายทะเบียน และไม่ได้ขออนุญาตวิ่งในทางสาธารณะ ตลอดจนรับขนส่งนักท่องเที่ยวและบุคคลโดยทั่วไปเข้าออกหาดนุ้ย


4) ให้ตั้งกรรมการสอบวินัย ผกก.สภ.กะรน ในกรณีที่ดำเนินการสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการบุกรุกหาดสาธารณะ (หาดนุ้ย) ล่าช้า ซึ่งความล่าช้าเป็นการเอื้อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้บุกรุกหาดสาธารณะ (หาดนุ้ย) หรือไม่อย่างไร

5) ระหว่างการตั้งกรรมการสอบวินัย ผกก.สภ.กะรน ให้ย้าย ผกก.สภ.กะรน คนปัจจุบันไปประจำที่ศูนย์ ศปก.ภูธรภาค 8 เป็นการชั่วคราว เพื่อให้เกิดความยุติธรรม


6) ให้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี ที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุกผู้บุกรุกที่ดินหาดนุ้ย เป็นระยะเวลา 4 ปี และให้ขับไล่ ออกจากหาดสาธารณประโยชน์ (หาดนุ้ย) ดำเนินการขอออกหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ออกจากที่ดินชายหาดสาธารณะประโยชน์ (หาดนุ้ย) ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ตลอดจนให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่สร้างในพื้นที่สาธารณะหาดนุ้ยออกทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเดินทางมายื่นข้อเรียกร้องในครั้งนี้ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาว่าจะต้องดำเนินการเมื่อไหร่อย่างไร แต่เป็นการเดินทางมายื่นข้อเรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรมกับกรณีที่เกิดขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น