พัทลุง - ผู้การพัทลุงเผยพบชาวอินโดนีเซียถูกกักขังในบ้านรวม 3 คน ส่งตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกทำร้ายที่ รพ.พัทลุง ส่วนบ้านที่ใช้กักขังเป็นบ้านเช่าร้าง ยังไม่ทราบชื่อเจ้าของ ด้านแม่ยายหนึ่งในผู้ต้องหาเข้าเยี่ยมลูกเขย ไม่เชื่อลูกเขยเป็นคนอุ้ม แต่น่าจะมีคนที่ใหญ่และมีอิทธิพลมากกว่านี้ คาดลูกเขยจะถูกจ้างมาดูแลเท่านั้น
จากกรณีที่ตำรวจบุกช่วยหนุ่มชาวอินโดนีเซีย ที่ถูกคนร้ายอุ้มเรียกค่าไถ่ 2.3 ล้านบาท นำตัวกักขังบ้านแห่งหนึ่งใน ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุงนั้น
วันนี้ (15 พ.ค.) ด้าน พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จุมพฏ เลี่ยมแก้ว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง พร้อมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เร่งสืบสวนสอบสวน ต่อมา ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 7 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง และช่วยเหลือตัวนายชาวานา ชาวอินโดนีเซียได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ตำรวจยังพบชาวอินโดนีเซียที่ถูกกักขังอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวอีก 2 คนด้วย ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจนำชาวอินโดนีเซียทั้ง 3 คนไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายที่ รพ.พัทลุงแล้ว
“สำหรับบ้านที่พบเหยื่อหลังดังกล่าวนี้ ทราบว่า เป็นบ้านเช่าร้าง ที่ยังไม่ทราบชื่อเจ้าของ ในขณะเดียวกัน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพัทลุงเข้าไปตรวจรายละเอียดหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน” พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กล่าว
ด้านนางวาริน สงรอง อายุ 57 ปี แม่ยายของนายวีระศักดิ์ หรือปาน หนึ่งในผู้ต้องหาได้เดินทางมา สภ.เมืองพัทลุง เพื่อเยี่ยมลูกเขย โดยนางวาริน บอกว่า เบื้องต้นนั้นตนยังไม่ทราบเรื่องเลย ปกติไม่ค่อยสนิทกับลูกเขย โดยลูกเขยกลับบ้านมาเยี่ยมลูกเดือนละครั้ง ทำงานรับเหมาก่อสร้าง ติดประตูหน้าต่าง เลยไม่มีเวลา
พฤติกรรมของลูกเขยที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเชื่อว่าลูกเขยไม่ได้เป็นคนลงมืออุ้ม แต่น่าจะมีคนที่ใหญ่และมีอิทธิพลมากกว่านี้ คาดลูกเขยจะถูกจ้างมาดูแลเท่านั้น
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
๐ ตำรวจเข้าช่วยเหลือหนุ่มอินโดฯ ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ 2.3 ล้านบาท