xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยงานราชการลงบ้าน “น้องไนซ์” ด้านทนายขู่เดินหน้าฟ้องผู้บริหารช่อง-พิธีกรดัง ขณะที่แม่ขอให้ทุกฝ่ายรอผลคำสั่งศาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุราษฎร์ธานี - พม.สุราษฎร์ฯ นายอำเภอ ทีมจิตเวช พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงบ้าน “น้องไนซ์” ด้านทนายเผยเดินหน้าฟ้องผู้บริหารช่องและพิธีการดัง พร้อมเตรียมฟ้องอีกเพียบ ในขณะที่แม่เด็กขอให้รอผลคำสั่งศาล


น.ส.จารุณี รัตนจิน หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และนายอภิเชษฐ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการสถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็ก พร้อมทีมแพทย์จิตเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าพบบิดา มารดาของเด็กชายที่คนกลุ่มหนึ่งเรียกว่าอาจารย์น้องไนซ์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเด็กและครอบครัว ตลอดจนสร้างความเข้าใจ และขอทราบแนวทางในการดูแลเด็กเพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการดูแลเด็กร่วมกัน ณ บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ที่ 3 ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมพูดคุยถึงแนวทาง กระบวนการทำงาน ติดตามประเมิน ค้นหาข้อเท็จจริง ในกรณีกลุ่มนิรมิตรเทวาจุติ การพูดคุยได้แบ่งเป็นกลุ่มโดยคณะทีมแพทย์ ได้พูดคุยกับน้องไนซ์ และคณะ พม.ได้พูดคุยกับพ่อแม่ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับ

ซึ่งในระหว่างนั้น แม่เด็กได้นำหนังสือเอกสาร และคลิปขณะที่ลูกอายุ 3 ขวบ ที่สอนธรรม คำพูดเกี่ยวกับธรรมะ มาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งบางช่วงบางตอนแม่น้องไนซ์ บอกว่าน้องสามารถสอนเรื่องเชื่อมจิตได้ และ สามารถพูดคุยสอนธรรมะได้นานถึง 7-8 ชั่วโมง โดยน้องเริ่มพูดจริงจังตอนอายุ 5 ขวบ


ด้าน นพ.คเณศ คณินวรพันธุ์ แพทย์ผู้ดูแลเด็กชายไนซ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เดินทางมาไม่ได้ถามอะไรมาก เนื่องจากทางการแพทย์ติดในเรื่องของกฎเกณฑ์ ก็ไม่แปลก ซึ่งทางเราคุยกันหลายครั้งแล้ว และทาง พม.เคยลงมาสอบสวนแล้ว พบว่าไม่มีความผิดปกติ แต่เมื่อมีกระแสหนักทำให้ทางฝ่ายพ่อแม่เขากังวล เราเองกังวลว่าถ้ามาหลายครั้ง ทำเหมือนว่าเราเป็นคนผิดทั้งๆ ที่เราไม่ได้ผิดอะไรเลย ทำไมไม่รอผลทางศาลหรือลงตรวจไปแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ การตรวจซ้ำถามว่าดีไหมมันก็ดี แต่ก็เป็นสองด้าน

"ในกรณีของน้องไนซ์ คุณมาตรวจสอบ แต่กฎเกณฑ์ของทางราชการหรือทางการแพทย์ต้องเป็นความลับระหว่างหมอกับผู้ป่วย แต่ทางญาติยินดีให้เปิดเผย โดยอัดคลิป แต่ทางหมอไม่สะดวก หลังจากการตรวจสอบดูแล้วว่ายังไม่ตัดสินใจอะไรซึ่งบรรยากาศค่อนข้างจะตึงเครียดนิดหนึ่ง เนื่องจากว่าความเข้าใจไม่ตรงกัน

"อยากให้พิจารณาในมุมมองของผมว่าคุณจะสัมภาษณ์เด็กคุณ วิจารณ์อะไรก็ตาม คุณต้องประเมินในภาวะที่เด็กปกติว่าเด็ก 8 ขวบ สามารถพูดได้ถึงขนาดนี้ คุณคิดว่าความสามารถของที่ต่ำกว่าผิดปกติหรือเปล่า ไม่ใช่มาเอาผลกระทบอย่างอื่นแล้วเหมาว่าจะมาตรวจให้ได้ ซึ่งการตรวจให้ได้การมาคุยแล้วคิดว่าเด็กมีปัญหาจริง แต่ถ้าคุณประเมินว่าเด็กไม่มีปัญหาแล้วจะมาตรวจอีกทำไม มันจะกลายเป็นโยนบาปให้เด็กว่าเด็กมีปัญหาจะให้เด็กไปตรวจอย่างกรณี"

"วันนี้พอกลับออกไปยังไม่สรุป จะมีข่าวอีกแล้วว่าพ่อแม่ไม่ให้ความร่วมมือหรือเปล่า เด็กมีปัญหาหรือเปล่าจำเป็นต้องตรวจที่โรงพยาบาลไหม เด็กมีปัญหาโน่นนี่ไหม ซึ่งจะเป็นการตีกระแสข่าว ซึ่งอยากให้ผู้ที่เสพข่าว มีวิจารณญาณ ว่า ทุกคนมีจุดยืนและมีเหตุผล ส่วนที่คณะลงมาในวันนี้จะมีการตั้งธงหรือไม่ ก็ไม่มั่นใจเพราะบางคนพอพูดกันไม่กี่คำก็เดินกลับออกไปเลย ซึ่งมันไม่ถูก" นพ.คเณศ กล่าว


ด้านนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครอบครัวเด็กชายไนซ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีการพูดคุยกันก่อนว่า วันนี้ที่มาเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงหมายความว่าท่านใดอยากมีคำถามจะให้พูดคุยกับน้องไนซ์โดยตรงโดยไม่มีพ่อแม่นั่ง เมื่อมีการพูดคุยขอความร่วมมือจาก พม. ดำเนินการแบบนี้แล้ว หน่วยงานไหนหรือคุณหมอจะมานั่งคุยและสอบถามได้เลย โดยทางเราขอถ่ายทอดสดหรือไลฟ์สด เพราะก่อนหน้านี้มีการลงมาพูดคุยแล้วครั้งหนึ่งไม่จบ เพราะฉะนั้นเราต้องการให้สังคมทราบว่า พม.ลงมาบ้านน้องไนซ์ และน้องไนซ์มีความรู้ ความสามารถตอบข้อเท็จจริงได้จริงไหม

นายธรรมราช กล่าวอีกว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ลงมาคงยังไม่มีข้อสรุป ลักษณะดูอาการโดยรวมโดยมีเหตุตรงที่ว่าน้องไนซ์ ไลฟ์ TikTok แล้วกับคุณแม่มีการพูดในลักษณะที่ท้าทายหรือพูดถึงพิธีกรท่านหนึ่ง ที่นำเสนอภาพของน้องไนซ์ และกล่าวหาว่า เป็นพระพุทธเจ้ากับชาติมาเกิดสาเหตุมันมาจากตรงนั้น แต่พอมองไปดูในประเด็นที่ว่าน้องไนซ์ พูดตรงไหนจึงเป็นเหตุที่เขาลงมาหา สาเหตุว่ามันเกิดจากอะไรในประเด็นนี้ น้องไนซ์ก็ตอบคำถามด้วยตัวเองไปแล้วว่า สาเหตุมาจากเอาภาพของน้องไปไปเผยแพร่และกล่าวหาว่าเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติเกิด


นายธรรมราช ย้ำว่า ในส่วนคดีคดีขณะนี้มีการฟ้องร้องไปแล้ว 2 คดี ซึ่งก่อนหน้านี้ฟ้องสื่อไปหนึ่งคดี และมีการนำสืบพยานในวันพรุ่งนี้ 14 -15 พฤษภาคม 2567 และเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้ยื่นฟ้องสื่อ โดยมีจำเลยประกอบด้วยผู้บริหารช่องและรายการ พิธีกรรวมทั้งหมด 7 คนด้วยกัน คดีนี้ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ช่วงเวลา 13.00 น. ในส่วนเรื่องข้อหาที่ยื่นฟ้องคือในส่วนผู้ประกอบการสื่อเกี่ยวเนื่องในเรื่องมาตรามาตรา 30 บัญญัติกิจการกระจายเสียงเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ.2551 เจ้าของช่องหรือผู้ถือใบอนุญาตมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ควบคุมในการออกอากาศมีส่วนร่วมและการกระทำความผิดต้นเหตุและสาเหตุมาจากในการนำเสนอภาพของน้องไนซ์และผู้ปกครองคือแม่นก และไปพาดหัวว่า อ้างตนเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด ซึ่งมันเป็นความเท็จตรงนี้มันเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาตรา 27 และหมิ่นประมาทในการโฆษณารวมถึงเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และจะฟ้องกลุ่มบุคคลที่ไปที่กองปราบจะต้องไปดูเอกสารอีกทีว่า เขาร้องข้อหาอะไร และก่อนหน้านี้ที่ออกสื่อสัมภาษณ์ใส่ร้ายเกี่ยวกับเรื่องที่ดินไม่โปร่งใสและก่อนหน้านี้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วซึ่งเป็นคดีต่อเนื่องกันมา ไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ด้านนางนก แม่ของเด็กชายไนซ์ กล่าวว่า ทางเราไม่วิตกกังวลอะไร วันนี้มีแพทย์เข้ามาด้วยแต่ท่านไม่สะดวกที่จะให้ให้เราไลฟ์สด และ ขออัดคลิปการพูดคุยกับน้อง เพราะว่าตอนนี้กระบวนการทุกอย่างของน้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งทางทีมแพทย์เขาบอกว่าอยากให้น้องไปตรวจสุขภาพ น้องบอกว่าน้องไม่ได้เป็นอะไรทำไมต้องไปตรวจ น้องไม่ยินยอม ซึ่งทางแม่กฝเลยเสริมไปว่าถ้าจะให้น้องไปตรวจ ทางแพทย์จะต้องมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรถึงสาเหตุอะไรที่จะให้น้องไปตรวจ ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วมาบอกให้น้องไปตรวจ ซึ่งมันไม่ถูกต้องถ้าอยากจะต้องการให้น้องไปตรวจทางเจ้าหน้าที่ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะทุกอย่างมีผลทางกฎหมายทั้งหมด ถ้าทำอย่างถูกต้องทางฝ่ายเรายินดีไปตรวจ


นางนก กล่าวอีกว่า อยากจะฝากถึงทุกคนว่าเรื่องราวของน้องไนซ์ ตอนนี้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายทั้งหมดแล้ว ดังนั้นจะต้องรอกระบวนการตามกฎหมายเป็นตัวชี้ชัด ว่า ความจริงมันคืออะไร ไม่ใช่โลกโซเชียลที่จะสามารถมาชี้ชัดว่าความจริงมันคืออะไร หรือว่าสื่อจะมาชี้ชัด ซึ่งมันไม่ใช่จริงๆ ทางตัวแม่บอกมาตลอดอยู่แล้วว่าเราจะเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งฝ่ายเราไม่เข้าใจเหมือนกันว่า สื่อทำไมไม่หยุดสักที ทำไมสื่อไม่รอกระบวนการตามกฎหมาย มันมีอะไรหรือเปล่า หรือคุณกำลังคิดจะทำอะไรหรือเปล่าทำไมคุณถึงรอกระบวนการตามกฎหมายไม่ได้

"ตรงนี้ที่เรากำลังมองว่าคุณรอไม่ได้แล้ว คุณยังสร้างเรื่องเท็จเป็นรายวันทุกๆ วัน ทุกวันนี้เราเห็นใจทีมกฎหมายของเรามาก เพราะมันต่างกรรมต่างวาระเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงอยากให้ทุกคนรอกระบวนการตามกฎหมายก่อนเพราะทุกอย่างเข้าสู่กระบวนแล้ว" นางนก กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น