สุราษฎร์ธานี - แหม่มสาวนักธุรกิจชาวฝรั่ง เจ้าของวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองตายริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แม่บ้านคนสนิท หลังทราบป่วยเป็นมะเร็ง เบื้องต้นตำรวจสันนิฐานฆ่าตัวตายเองเครียดจากโรคร้าย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (29 เม.ย.) พ.ต.ต.ญาณภัทร มาลัย สารวัตรเวร สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติถูกยิงเสียชีวิตในวิลล่าบนเนินเขา บ้านแม่น้ำ ซอย 5 ลัดซอย 7 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรกฤษ์ งามศรีอ่อน ผกก.สภ.เกาะสมุย พ.ต.ท.วรพงษ์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.สวัสดิ์ ทัลวัลลิ์ สว.สส. ร.ต.อ.พิเชษฐ์ วิบุตร รอง สว.สส. ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ตำรวจ สืบสวน ภ.8 ตำรวจ นปพ.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 8 และแพทย์เวรโรงพยาบาลเกาะสมุย อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย
ที่เกิดเหตุเป็นวิลล่าหรูริมเนินเขาแม่น้ำ พบศพ นางแคทเทอร์ริน เดลาคอท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส สภาพศพสวมเสื้อคลุม นอนหงายบนพื้นริมสระน้ำบริเวณหน้าบ้าน ที่ขมับซ้ายพบรูกระสุนเจาะทะลุขมับขวา เลือดไหลนองกระจายบนเตียงสำหรับนอนเล่นริมสระน้ำ ข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติกขนาด .45 สีดำ 1 กระบอก และพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่ใต้เตียง 1 ปลอก และยังพบรูกระสุนทะลุไปเจาะกระจกประตู หัวกระสุนไปตกอยู่ในบ้าน 1 หัว และตรวจสอบโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงหวายสำหรับนอน พบแก้วสำหรับดื่มเหล้า ภายในแก้วมีเหล้าวอดก้า และบุหรี่ 1 ซอง แว่นตาวางอยู่
ในขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบว่าที่ข้อมือซ้ายของผู้ตายมีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่ พร้อมตรวจสอบวิถีกระสุน ในส่วนของข้าวของภายในบ้านยังอยู่ปกติ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นแต่อย่างใด
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ศพแหม่มผู้ตายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ได้มีทีมพยาบาลจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้ง และเมื่อทีมพยาบาลมาถึงได้นำร่างแหม่มลงมาจากเตียงนอนเล่น ลงมาวางที่พื้น จึงทำให้สภาพศพไม่อยู่ในสภาพเดิม และทราบว่าอาวุธปืนหล่นตกลงมาอยู่ที่พื้นเช่นกัน โชคดีปืนไม่ลั่นเนื่องจากอาวุธปืนถูกยิงออกไป 1 นัด ยังมีกระสุนอยู่ในลำกล้องปืนอีกหลายนัด
จากการสอบถาม นายสมพร บุญเสิรฐ์ อายุ 29 ปี คนงานดูสระน้ำที่พบศพผู้ตายเป็นคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ ตนได้เดินทางมาดูแลสระน้ำตามปกติเหมือนทุกวัน เมื่อขึ้นบันไดเข้ามาพบว่ามีคราบเลือดไหลนองพื้น และเห็นนางแคทเทอร์ริน แหม่มเจ้านายนอนแน่นิ่ง จึงได้วิ่งลงมาโทรศัพท์บอกหัวหน้าให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายสมพร คนงานยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยเจอกับแหม่มทุกวัน แหม่มเป็นคนร่าเริง ใจดี ส่วนปืนตนไม่รู้ซึ่งที่เกิดเหตุตนไม่เห็นปืนด้วย ซึ่งปืนซึ่งปืนเพิ่งพบเมื่อตอนที่เจ้าที่พยาบาลมาเจอโดยตนมาดูแลสระน้ำให้แหม่ม เมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมา แหม่มเป็นคนดีมาก พูดเล่นหยอกล้อกับตนตลอด
ด้าน นางณัฐวลัย ภูพองตา อายุ 49 ปี แม่บ้านประจำตัวที่อยู่กันมานาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวพร้อมนำภาพที่พบศพครั้งแรกในสภาพเดิมที่แหม่มนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนเล่นริมสระน้ำ ก่อนเกิดเหตุแหม่มได้โอนเงินให้ พร้อมบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยเจอกันเรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน มีเรื่องซับซ้อน โดยแหม่มได้ป่วยเป็นมะเร็ง และเป็นริดสีดวง แต่อาการดีขึ้นแล้ว
และตนเพิ่งมารู้ว่า แหม่มได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินไว้ให้ตนเนื่องจากแหม่มมาขอบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนาต่างๆ และทะเบียนบ้าน หลังจากที่แหม่มได้เลิกกับสามีไปก่อนหน้านี้ โดยก่อนหน้านี้ แฟนของแหม่มซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส อยู่ที่เกาะสมุย แต่หลังจากได้เลิกรากันก็ไปแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น และแหม่มอยู่คนเดียวที่วิลล่า โดยมีตนเป็นแม่บ้าน เป็นที่ปรึกษาให้ทุกอย่าง ซึ่งตนอยู่กับแหม่มมาหลายปีแล้ว
แม่บ้านยังกล่าวต่ออีกว่า เมื่อคืนแหม่มส่งเมสเสจข้อความไปให้เพื่อนๆ ว่า จะยกทรัพย์สินให้ตนทุกอย่าง แต่ตนไม่อยากได้ โดยตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะแหม่มเป็นคนดีมาก ซึ่งมีอะไรจะพูดคุยกับตนแทบจะทุกเรื่อง แม้กระทั่งป่วยหรือเรื่องส่วนตัวไม่เคยมีความลับ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นบางครั้งก็เป็นเรื่องส่วนตัว แหม่มแกเป็นคนชอบดื่ม บางทีอาจจะตัดสินอะไรลงไป แกอาจจะไม่บอกเราก็ได้เรื่องส่วนตัวบางเรื่อง แต่ในเรื่องงานเรื่องไปหาหมอจะบอกกับตนทุกครั้ง โดยแหม่มมีวิลล่าให้เช่าหลายที่
ส่วนอาวุธปืนไม่เคยมีก่อนหน้านี้ แต่เมื่อไม่นานได้มีคนร้ายย่องขึ้นมาขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ ต่อมา แหม่มถึงได้หาปืนมาไว้ซึ่งอยู่ในลิ้นชักในบ้านตลอด แต่เราไม่สนใจเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย ปกติแล้วแหม่มผู้ตายเป็นคนถนัดมือข้างซ้าย ในตอนเกิดเหตุตนไม่ใช่รู้เรื่อง เพราะนอนกันคนละบ้าน มารู้ตอนที่คนงานทำสระน้ำโทร.ไปบอกว่าเจ้านายป่วยมีเลือดไหลเยอะเลย ตนตกใจรีบขับรถกลับมาอย่างรวดเร็ว
แม่บ้านกล่าวไปด้วยความเสียใจ และกล่าวต่ออีกว่า หลังจากนี้ตนต้องดูแลแทนแกไปก่อน เนื่องจากทรัพย์สินของแหม่มเจ้าหน้ามีมูลค่ามากมายหลายอย่าง ในส่วนเรื่องศพของแหม่มเจ้านาย ตนจะจัดการเรื่องทำศพแบบไทยให้ดีที่สุด ซึ่งคาดว่าจะนำศพไปไว้ที่วัดบ่อผุด
“ในส่วนของคดี ตนเชื่อว่าแหม่มน่าจะฆ่าตัวตายเองจริงๆ เพราะเราดูสาเหตุที่แกส่งเมสเสจไปหาบุคคลต่างๆ เหมือนกับเป็นการสั่งลา หรือสั่งเสียอะไรสักอย่าง” แม่บ้านกล่าว
ด้าน พ.ต.ต.ญาณภัทร มาลัย สารวัตรเวร ได้นำศพของแหม่มผู้ตายส่งไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลเกาะสมุย พร้อมได้แจ้งให้สถานทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ทราบ และจะเชิญคนงานและแม่บ้านคนสนิทไปสอบปากคำอีกครั้ง ส่วนอาวุธปืนยังต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าซื้อมาจากไหน และใครเป็นคนนำมาให้ใช้
ในเบื้องต้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การก่อเหตุของแหม่มผู้ตาย ลักษณะเหมือนมีการเตรียมตัวมาก่อน และมีทรัพย์สิน วิลล่า 2 ที่ ในตำบลแม่น้ำ และวิลล่าบ้านที่เกิดเหตุ โดยก่อนตายได้โอนเงินให้แม่บ้านและคนงานเมื่อประมาณเที่ยงคืน ในคืนเกิดเหตุ พร้อมส่งข้อความไปหา และมีการปรับมุมกล้องวงจรปิดที่สระน้ำ และคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-6 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพศพแข็งตัวและคราบเลือดแห้งกรังแล้ว ส่วนสาเหตุสันนิษฐานคาดเป็นการฆ่าตัวตายจากสาเหตุป่วย