ชุมพร - สังเวยภัยแล้ง เจ้าของสวนทุเรียนใน อ.สวี จ.ชุมพร ทนเห็นทุเรียนยืนต้นตายไม่ไหว ขับรถบรรทุกถังน้ำ 2 พันลิตร จากแหล่งน้ำจะนำไปรดต้นทุเรียน แต่รถเสียหลักพลิกตกเหว จมน้ำดับอนาถ
จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานในพื้นที่ จ.ชุมพร ส่งผลให้ต้นทุเรียน ผลไม้ชื่อดังขาดน้ำ ทางเจ้าของสวนผลไม้บางรายต้องขนน้ำไปรดต้นทุเรียนที่ปลูกไว้ในสวน ล่าสุดเจ้าของสวนทุเรียนในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เนื่องจากรถที่ขนน้ำไปรดต้นทุเรียนพลิกตกเหว โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง พ.ต.ท.สมชาย บุญเกิด สว.(สอบสวน) สภ.นาสัก ได้รับแจ้งมีรถยนต์กระบะ บรรทุกแท็งก์น้ำพลาสติกขนาด 2,000 ลิตร เสียหลักพลิกคว่ำตกเขา พื้นที่ หมู่ 7 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร มีผู้ติดอยู่ภายในรถ 1 คน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับหน่วยกู้ภัยสายชล เขตเขาทะลุ
ที่เกิดเหตุอยู่ในถนนซอยห้วยใหญ่ ห่างจากถนนสายเขาค่าย (ชุมพร)-ละอุ่น (ระนอง) ประมาณ 2 กม. สภาพถนนเป็นลูกรัง กว้างเพียง 5 เมตร โดยถนนดังกล่าวชาวบ้าน ช่วยกันเทคอนกรีตทำเป็นร่องเฉพาะรองรับล้อรถเท่านั้น เนื่องจากถนนสายนี้สภาพต้องขับขึ้นที่สูงชัน ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันทำเพื่อป้องกันไม่ให้รถที่วิ่งเข้ามาในสวนจะได้ไม่ลื่นเวลามีฝนตกลงมา
โดยริมถนนด้านขวามือเป็นเหวลึกประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบร่องรอยต้นไม้ขนาดเล็กใหญ่ข้างทางพังราบเป็นแนวยาวลงไป และพบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บล 3103 ชุมพร สภาพพลิกหงายท้องอยู่ในน้ำลึกกว่า 3 เมตร ข้างๆ รถมีแท็งก์พลาสติกใส่น้ำ ขนาด 2,000 ลิตร และอุปกรณ์ต่างๆ ลอยเกลื่อนอยู่ในน้ำ
ส่วนผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทราบชื่อภายหลังคือ นายจรงค์ ชำนิหอม อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/2 หมู่ที่ 7 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และชาวบ้านในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุได้ช่วยกันนำตัวออกมาจากรถในสภาพหมดสติ และได้พยายามช่วยทำ CPR แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
สอบถาม นายสุทิน เชื้อวงษ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสายชล เขตเขาทะลุ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้เกิดเหตุรถพลิกคว่ำตกเหวแล้วจมในน้ำ ถนนซอยห้วยใหญ่ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัยไปที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงพบว่ามีชาวบ้านหลายคนได้นำตัวผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมาจากรถแล้ว และช่วยกันทำ CPR ช่วยชีวิต แต่ไม่สำเร็จ ตนจึงได้นำร่างส่ง รพ.สวี เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพอย่างละเอียดต่อไป
ด้าน นางสีนวล คนคล่อง อายุ 47 ปี อยู่ 70/4 ม.4 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ผู้ตาย เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตั้งแต่ อ.สวี จ.ชุมพร ได้เกิดวิกฤตฝนขาดช่วงประสบภัยแล้งอย่างหนักมานานกว่า 2 เดือน ทำให้ในพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ต้องนำรถยนต์กระบะบรรทุกแท็งก์น้ำเพื่อไปหาดูดน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ที่มีในพื้นที่ เพื่อจะนำมารดต้นทุเรียนของสวนตนเอง และเช่นเดียวกับสวนทุเรียนของตน ทุกวันพ่อและลูกๆ จะระดมรถออกไปบรรทุกน้ำมาใส่สระในสวนเพื่อเก็บไว้รดทุเรียนในช่วงค่ำ
นางสีนวล กล่าวว่า สำหรับพ่อนั้นทุกวันในช่วงเช้าจะขับรถบรรทุกแท็งก์น้ำพลาสติกขนาดใหญ่ ออกจากสวนเพื่อไปบรรทุกน้ำมาใส่เก็บไว้ในสระ โดยวันเกิดเหตุเพิ่งจะได้น้ำมาเพียงเที่ยวเดียว และเมื่อพ่อถ่ายน้ำลงสระแล้วได้ขับรถออกไปจะบรรทุกน้ำอีกเที่ยว แต่เที่ยวนี้ผิดสังเกตเพราะพ่อไปนานมาก จนกระทั่งญาติโทรศัพท์มาบอกว่ารถพ่อเสียหลักตกเหวจมน้ำและเสียชีวิตแล้ว
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยานหลักฐานการเกิดเหตุจากกล้องหน้ารถของญาติผู้ตาย ซึ่งได้ขับรถยนต์กระบะไปบรรทุกน้ำมาเช่นกันและได้ขับตามหลังรถผู้ตายมา ห่างไม่มากนัก พบว่าขณะที่รถของผู้ตายขับรถซึ่งบรรทุกน้ำมาเต็มแท็งก์ 2,000 ลิตร ได้ขับมาในถนนซอยห้วยใหญ่ ผู้ตายได้ขับเบี่ยงหลบก้อนหินที่โผล่ขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่เป็นช่วงเดียวที่รถซึ่งได้ขับชิดริมถนนเกินไป ทำให้รถที่หนักล้อรถที่กดดินเกิดยุบและเลื่อนตัว ส่งผลให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงไหล่ทาง ซึ่งมีสภาพเป็นหุบเหวสูง ก่อนรถจะพลิกหงายท้องจมน้ำ นายจรงค์ คนขับไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ทัน และเสียชีวิตดังกล่าว