ตรัง - เทศบาลนครตรังขยับแล้ว จ้างบริษัทที่ปรึกษาทุ่มเงินสะสมเกือบ 300 ล้าน เดินหน้าก่อสร้างอาคารศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมพระยารัษฎานุประดิษฐ์ หลังทิ้งร้างนาน 8 ปี
นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า จากการก่อสร้างอาคารศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ที่ได้ดำเนินการมา 2 ระยะ ปัจจุบันอาคารดังกล่าวยังใช้ประโยชน์ไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเพียงการก่อสร้างโครงสร้างอาคารเท่านั้น เทศบาลนครตรังจึงได้จัดสรรงบประมาณ และได้ว่าจ้างให้บริษัท ดีไว พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาในโครงการจ้างที่ปรึกษาออกแบบปรับปรุงตกแต่งอาคารศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เพื่อออกแบบปรับปรุงอาคาร พร้อมออกแบบการตกแต่งภายในอาคารและบริเวณโดยรอบพื้นที่อาคารศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม วงเงินงบประมาณ 289,000,000 บาท ให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเกิดประโยชน์สูงสุด
นายสัญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สำหรับการก่อสร้างในเฟสที่ 3 เทศบาลนครตรังพิจารณาใช้แหล่งงบประมาณจากเงินสะสม จำนวน 289,000,000 บาท ในการก่อสร้างอาคาร ประกอบด้วยอาคาร 3 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นลานจอดรถ สามารถจอดรถได้ 118 คัน ชั้นที่ 2 และ 3 เป็นพื้นที่ใช้งานส่วนบริการอาคาร ประกอบด้วย 1.อุทยานการเรียนรู้ Thailand Knowledge Park หรือ TK Park 2.ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมอเนกประสงค์ 3.ลานกิจกรรม/นิทรรศการหมุนเวียน 4.ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า 5.ศูนย์การเรียนรู้ในภูมิภาค เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ RCE 6.พิพิธภัณฑ์นครตรัง (พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี) และ 7.สำนักงานการศึกษา ในส่วนงานส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าของการก่อสร้างจะรายงานให้ทราบต่อไป
สำหรับการก่อสร้างอาคารศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือหอศิลป์พระยารัษฎา ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาการทิ้งร้างก่อสร้างไม่แล้วเสร็จมายาวนาน และถูกติดตามตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดตรัง โดยก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2559 จนบัดนี้ผ่านไป 8 ปีแล้ว ยังสร้างไม่เสร็จ ถูกปล่อยทิ้งร้างมาโดยตลอด ทั้งนี้ อาคารศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมพระยารัษฎานุประดิษฐ์ มีหน่วยงานรับผิดชอบ คือ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและเทศบาลนครตรัง ขออนุญาตพื้นที่ก่อสร้างจากรมธนารักษ์ ใช้งบประมาณก่อสร้างรวมไปแล้วกว่า 107,296,600 บาท
แบ่งออกเป็น 2 ปีงบประมาณ ดังนี้ 1.ปี 2559 ใช้งบ 39,320,000 บาท สร้างเสร็จเฉพาะโครงสร้างภายนอกเท่านั้น 2.ปี 2560 ได้งบเพิ่มอีก 67,976,600 บาท สำหรับโครงสร้างงานผนัง-ผิวหนัง งานผิวพื้น งานหลังคา งานระบบไฟฟ้า และงานระบบประปา-สุขาภิบาล สิ้นสุดสัญญาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหน่วยงานทีเกี่ยวข้องอ้างว่า ความล่าช้าเกิดมาจากพื้นที่นี้เคยขอไว้สร้างสนามกีฬา
ตอนปี 2556 จึงต้องขอทำเรื่องเปลี่ยนจากสนามกีฬามาเป็นการสร้างอาคารศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมแทน และได้รับการอนุมัติให้สร้างได้วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 แถมปี 2559 ยังเคยมีข่าวอีกว่าชั้น 2 ของอาคารได้ถล่มลงจนทำให้คนงานบาดเจ็บไป 20 ราย ขออนุมัติเปลี่ยนการก่อสร้างก็แล้ว ได้งบเพิ่มก็แล้ว ผ่านไป 8 ปีก็แล้ว แต่ยังคงถูกทิ้งร้าง ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งมีเสียงวิพาษ์วิจารณ์ความเหมาะสมจำเป็นที่มีการออกแบบเป็นอาคารขนาดใหญ่ติดแอร์ท้ังหลังเกินความจำเป็นหรือไม่ ในเรื่องงประมาณค่าดูแลบริหารจัดการที่อาจเกินศักยภาพของท้องถิ่นในอนาคต
