ตรัง - “ตันหยงสตาร์” เมืองท่าโบราณ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จัดแข่งงมหาหอยเดือน ด้วยมือหรือเท้าเปล่า ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน เผยเป็นหอยที่รสชาติหวานอร่อย และนิยมนำไปทำเมนูผัดหรือย่าง
วานนี้ (14 เม.ย.) ที่แหลมหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ได้มีการจัดกิจกรรมโครงการสืบสานตำบลตันหยงสตาร์ เมืองท่าโบราณ ประจำปี 2567 โดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมทั้งการแข่งขันหาหอยเดือน หรือหอยแว่น โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 5 คน ซึ่งได้นำกะละมัง ลัง หรือที่ใส่หอยลงงมหาหอยเดือน ซึ่งในช่วงนี้จะพบได้มากบริเวณทะเลแหลมหยงสตาร์ โดยกติกากำหนดระยะเวลา 1 ชั่วโมง จะนำหอยเดือนที่หาได้มาทำการชั่ง หากใครได้น้ำหนักมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน
ทั้งนี้ หอยเดือน หรือหอยแว่นมีลักษณะแบนๆ ใหญ่ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือ และมีบางตัวที่ใหญ่มากถึง 2 ฝ่ามือ ส่วนวิธีการหาหอยชนิดนี้ ชาวบ้านที่ชำนาญจะใช้เท้า หรือมือในการควานหาด้วยการเขี่ยๆ ไปกับทรายที่ปนไปด้วยโคลนใต้ทะเลจะพบหอยได้ง่าย เพราะพวกมันจะอยู่ระดับเดียวกับพื้นทรายใต้น้ำ สำหรับวิธีการปรุงอาหารนั้นต้องนำหอยมาย่างเพื่อให้เปลือกอ้าออกก่อน โดยนิยมนำไปทำเมนูผัด หรือย่าง เพราะจะมีรสชาติหวานมาก ซึ่งชาวบ้านจะหามาขายในราคากิโลกรัม 20-25 บาท หากแกะขายแต่เนื้อจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 100 บาทเลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่เข้าแข่งขันวันนี้ทั้ง 5 คน เมื่อหาหอยเดือน หรือหอยแว่นมาได้จะนำมาชั่งน้ำหนักว่าใครหาได้เยอะสุด ปรากฏว่า ผู้ชนะเลิศคือ นายคนึง เจริญฤทธิ์ ซึ่งหาหอยเดือนได้จำนวนมากถึง 18 กิโลกรัม ทั้งนี้ เมื่อรวมจำนวนหอยเดือนที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 5 คน หามาได้ในครั้งนี้ พบว่า มีน้ำหนักรวมกันถึง 65 กิโลกรัม
นายคนึง เจริญฤทธิ์ อายุ 60 ปี ชาวตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง บอกว่า เนื่องจากเนื้อหอยชนิดนี้จะมีลักษณะกลมๆ เป็นวงๆ เหมือนดวงจันทร์ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า หอยเดือน โดยจะต้องหาในช่วงน้ำลง หรือน้ำกำลังขึ้นนิดๆ เพราะจะทำให้หอยผุดและลอยตัวขึ้นมาเอง โดยจะต้องใช้เท้าส่ายไปมาในทะเล หรือใช้มือจับไปด้วย จะรู้สึกสากๆ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับน้ำตื้น แต่บางตัวอยู่ลึกมากจนต้องดำลงไปหา ทั้งนี้ สามารถหาหอยเดือนได้ทุกวัน และขายได้ดี เพราะมีรสชาติหวานอร่อยมาก
