ชุมพร - จับยกชุดหัวหน้า รปภ.หมู่บ้านการเคหะแห่งชาติชุมพร พร้อมลูกน้องกับเมียน้อยค้ายาบ้า คุมตัวดำเนินคดี ท่ามกลางน้ำตาเมียหลวงที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล ที่ผ่านมาต้องอยู่อย่างทุกข์ใจ ถูกข่มขู่ให้อยู่ร่วมชายคาเดียวกับเมียน้อย ห้ามก็ถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมเผยชีวิตสุดบัดซบ อยากหนีแต่หนีไม่ได้
พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า นายต๋อง หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.ภายในการเคหะแห่งชาติ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 1 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ธวัช ภู่พร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ภ.จว.ชุมพร พร้อมด้วย ร.ต.ต.จิรวัฒน์ ดวงชัย รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจับกุม
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบเจ้าหน้าที่ รปภ.นายหนึ่ง ทราบชื่อภายหลังคือ นายทรงพล หรือตู่ ศรีสัยสง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224/7 หมู่ 4 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร นั่งอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งจัดทำเป็นสำนักงานของ บ.รับเหมาก่อสร้างที่อยู่อาศัยภายในโครงการเคหะแห่งชาติโครงการใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงบัตร ป.ป.ส.พร้อมแจ้งให้ทราบ และสอบถามถึงตัวนายต๋อง หัวหน้า รปภ. ทราบว่าอยู่ที่บ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นตัวนายทรงพล พบยาบ้า จำนวน 2 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนนำตัวไปบ้านพักนายต๋อง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าบ้านพักของนายต๋อง หลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานของโครงการเพียง 200 เมตร เจ้าหน้าที่ได้พบตัวนายต๋อง ซึ่งทราบชื่อจริง คือนายเสน่ห์ ทะลา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/493 หมู่ที่ 1 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหัวหน้า รปภ.พร้อมนายภัทรพล หรือ แบงค์ ผลทรัพย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 4 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นลูกน้อง โดยทั้งสองกำลังจะขับรถ จยย.ฮอนด้า สีส้ม รุ่นสกู๊ปปี้ ทะเบียน 1 กข 7680 ชุมพร
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมขอตรวจค้นภายในตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ขอตรวจค้นใต้เบาะรถ จยย.พบกระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาล ภายในพบถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบรูดเปิดปิด ตรวจสอบเป็นยาบ้าจำนวนมากบรรจุในอยู่ภายใน โดยนายเสน่ห์ หรือนายต๋อง รับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตน เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นขอกลาง ก่อนจะขอตรวจค้นภายในบ้านโดยมีนายต๋อง นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นด้วยความสมัครใจ
โดยจุดแรกชั้นล่างของบ้าน ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นใด ก่อนจะนำขึ้นไปตรวจบนชั้นสองของบ้าน ซึ่งพบว่ามีห้องนอน 2 ห้อง โดยห้องแรกติดบันไดทางขึ้นเจ้าหน้าที่พบ น.ส.ธิติมา หรือจูน สีดำอ่อน อายุ 37 ปี ทราบว่าเป็นหญิงคนสนิทของนายเสน่ห์ อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 1 ต.บางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง โดยข้างที่นอนพบอุปกรณ์การเสพไอซ์ จำนวน 1 อัน และยังตรวจค้นในชั้นวางของพบยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ถูกห่ออยู่ในกระดาษฟอยล์ สอบถาม น.ส.ธิติมา หรือจูน ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์เป็นของตนที่เสพไปเมื่อคืนและเหลือไว้เพื่อเสพอีกครั้งในวันนี้ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง
ก่อนจะไปเปิดประตูอีกห้องนอนเพื่อตรวจค้น พบ น.ส.เจน อายุ 27 ปี (นามสมมติ) และลูกสาว วัย 13 ปี ทราบว่าเป็นภรรยาหลวงของนายต๋อง หัวหน้า รปภ.การเคหะแห่งชาติ โดยทั้งสองมีท่าทีตกใจ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ทราบ พร้อมขอตรวจค้น ไม่พบสิ่งอื่นใดที่ผิดกฎหมาย
จากการสอบสวน นายเสน่ห์ หรือนายต๋อง หัวหน้า รปภ.การเคหะแห่งชาติชุมพร ทราบว่า ยังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งและรับว่ามีอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในกองขยะด้านหลังสำนักงานใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายภัทรพล หรือ แบงค์ ซึ่งเป็นคนนำยาบ้าและอาวุธปืนไปซุกซ่อน จนพบอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก ถูกห่อด้วยพลาสติกอย่างดีซ่อนไว้ในกระสอบปุ๋ย ห่างไปอีกเล็กน้อยยังพบยาบ้า จำนวน 7 ถุง อยู่ในกระบอกแบบกระป๋องออมสิน ซุกอยู่ใต้กองขยะ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง รวมยาบ้าที่ยึดไว้ได้ทั้งหมดจำนวน 1,624 เม็ดก่อนนำตัวทั้งสองพร้อมนายทรงพล หรือตู่ และ น.ส.ธิติมา หรือจูน พร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ทำการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายเสน่ห์ หรือต๋อง ให้การว่า ตนเป็นหัวหน้าชุด รปภ.โดยมีนายภัทรพล หรือแบงค์ และนายทรงพล หรือนายตู่ เป็นลูกน้องในทีม คอยดูแลโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยของการเคหะแห่งชาติชุมพร ส่วนยาบ้ารวมทั้งหมดยอมรับว่าเป็นผู้ค้าและเสพจริง โดยยาบ้าจะสั่งกับ นายทวี ไม่ทราบนามสกุล ผ่านทางไลน์ โดยจะสั่งครั้งละ 2-3 พันเม็ด และนายทวี จะส่งเป็นพัสดุมาทางบริษัทขนส่งเอกชน และบางครั้งจะนัดให้ไปรับตามริมถนน จะแบ่งขายให้กลุ่มแรงงานเม็ดละ 50 บาท แต่ถ้าซื้อยกห่อ 100 เม็ด จะขายให้ในราคา 4,000 บาท จากราคาต้นทุน 3,000 บาท
โดยทำมานานแล้ว มีนายภัทรพล หรือแบงค์ ลูกน้องเป็นคนจัดแบ่งขายปลีก และคอยส่งให้ลูกค้า ส่วนยาไอซ์นั้นตนไม่ได้ซื้อ โดยเพิ่งจะขอจากนายทวี มาเพื่อให้ น.ส.ธิติมา หรือจูน ภรรยาน้อยเสพเท่านั้น ไม่ได้สั่งมาขายเนื่องจากราคาสูง ซึ่งยาราคาถูกจะขายดีและหมดเร็วกว่า
เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นายทรงพล หรือนายตู่ และ น.ส.ธิติมา หรือจูน ในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ส่วนนายเสน่ห์ หรือนายต๋อง กับนายภัทรพล หรือนายแบงค์ ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน น.ส.เจน เมียหลวงนายต๋อง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนอยู่กินกับนายเสน่ห์ หรือนายต๋อง มากว่า 15 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ต่อมาเมื่อประมาณ 1 ปีเศษ นายเสน่ห์ ได้ไปติดพันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีสามีแล้ว ตอนนั้นตนเพียงระแคะระคาย พยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล ซ้ำร้ายยังถูกทำร้ายตบตีและไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวอีกด้วย แม้กระทั่งเรื่องยาเสพติดก็เช่นกันพยายามห้ามปราม ขอให้ทำงานด้วยความสุจริต แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งเจ็บตัว และต้องมาเจ็บใจหนักเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นายเสน่ห์ ผู้เป็นสามีได้นำหญิงสาวเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยในฐานะเมียน้อย
โดยนายเสน่ห์ บอกกับตนว่า ขอแยกห้องนอนกันคนละห้อง โดยวันจันทร์ถึงพฤหัสฯ จะมานอนในห้องกับตน และวันศุกร์ถึงอาทิตย์จะไปนอนกับมียน้อยอีกห้องซึ่งอยู่ติดกัน ซึ่งตนได้บอกว่าเอาไปทั้งหมดทุกวันทั้งอาทิตย์เลย และที่ตนต้องทนอยู่เพราะลูกสาว ยอมทุกอย่างแม้รถยนต์ให้สามีใช้กับเมียน้อย ส่วนตนยอมตากฝนตากแดดกับลูก และอยากจะหนีไปไหนให้พ้นๆ ชีวิตบัดซบนี้เสียที จนวันนี้มาถึงทั้งคู่ต้องถูกจับกุมเพราะสิ่งผิดกฎหมายในที่สุด