ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเผยปริมาณน้ำดิบทั้ง 3 อ่างเก็บน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปาเหลือเฉลี่ยอยู่ที่ 40% รองรับการใช้น้ำได้จนถึงกลางเดือน พ.ค.นี้ หากฝนยังไม่ตกอาจเจอปัญหาขาดแคลนน้ำ เตรียมพร้อมรับมือซื้อน้ำจากขุมเหมืองเอกชน ห่วงพื้นที่นอกเขตประปา มอบท้องถิ่นใช้เงินสะสมแก้ปัญหาชาวบ้านเดือดร้อนได้ทันที
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดถึงการเตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้งของจังหวัดภูเก็ตในช่วงหน้าแล้งปีนี้ ว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งนั้นเป็นสิ่งที่ทางจังหวัดภูเก็ตมีความกังวล เพราะนอกจากจะกระทบกับประชาชนชาวภูเก็ตแล้ว ยังกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตอีกด้วย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำไม่เพียงพอ ทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดภูเก็ต ขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ได้มีการประชุมประเมินสถานการณ์ปริมาณน้ำทั้งระบบของภูเก็ตทุกสัปดาห์ ทั้งปริมาณน้ำดิบที่จะนำมาใช้ในการผลิตน้ำประปาจากอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน ในภาพรวมน้ำในอ่างทั้ง 3 อ่าง มีประมาณ 40% ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับการใช้น้ำของภูเก็ตได้ไปจนถึงกลางเดือน พ.ค.นี้
และทางอุตุฯ ได้พยากรณ์ว่าภูเก็ตจะมีฝนตกลงในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งหากเป็นไปตามที่พยากรณ์ไว้ว่า ภูเก็ตจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ แต่หากฝนยังไม่ตกตามที่พยากรณ์ไว้ จะต้องดึงน้ำจากขุมเหมืองต่างๆ มาใช้ รวมทั้งได้มีการกำหนดแผนสำรองเอาไว้ในการรองรับหากฝนไม่ตกลงมาตามที่พยากรณ์ไว้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ ได้ให้ทางการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ตไปสำรวจน้ำในขุมเหมืองเอกชนที่ทางการประปาได้จัดซื้อไว้
อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ ที่อยู่นอกพื้นที่บริการน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค ทางจังหวัดได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้เงินสะสมของแต่ละท้องถิ่นให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยได้ทันที โดยไม่ต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแต่อย่างใด และทราบว่าขณะนี้บางท้องถิ่นเริ่มที่จะแจกจ่ายน้ำให้ประชาชนกันบ้างแล้ว หากปัญหาขาดแคลนน้ำเกินกำลังของท้องถิ่นสามารถแจ้งมายังจังหวัดได้ทันที
ด้าน นายโสภณ ทองไสย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งของจังหวัดภูเก็ต พบว่า ภาพรวมปริมาณน้ำทั้ง 3 อ่างเก็บน้ำ อยู่ที่ประมาณร้อยละ 22 โดยอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 3.85 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 49.5 ของความจุอ่าง อ่างเก็บน้ำบางวาด มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 2.56 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 25.1 ของความจุอ่าง และอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1.49 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 36 ของความจุอ่าง
ทั้งนี้ คณะทำงานติดตามสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดภูเก็ต ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้ง เพื่อประสานดูแลช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการจัดหาน้ำให้เพียงพอต่อการใช้น้ำ ทั้งการจัดหาขุมเหมืองเอกชน การตรวจสอบบ่อน้ำบาดาลเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรองรองรับ
ขณะที่เทศบาลนครภูเก็ตได้ เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพื่อดูแลช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนด้านน้ำอุปโภคให้ประชาชนในช่วงหน้าแล้ง
นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงและเป็นช่วงฤดูแล้ง ส่งผลต่อปริมาณน้ำที่มีน้อยกว่าความต้องการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ เทศบาลนครภูเก็ตจึงเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพื่อดูแลช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนด้านน้ำอุปโภคให้ประชาชน โดยทีมงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปกครอง สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลนครภูเก็ต เป็นหน่วยดำเนินการติดตั้งถังน้ำขนาด 2,000 ลิตร ในพื้นที่ที่น้ำประปาไหลอ่อนหรือหยุดไหลจากปริมาณน้ำในแต่ละวันอาจไม่เพียงพอ หรือมีการซ่อมแซมท่อประปา และมีการนำน้ำไปแจกจ่ายให้ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และประชาชนมีน้ำใช้ในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนในเขตเทศบาลนครภูเก็ต หากได้รับความเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือด้านน้ำอุปโภค สามารถประสานความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เทศบาลนครภูเก็ต โทรศัพท์สายด่วน 199 หรือ 1132 หรือโทรศัพท์หมายเลข 0-7621-1111
