ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แชร์ว่อน! คลิปสาวจีนมือบอนจับปลาดาวและหอยเม่นขึ้นจากทะเลมานั่งเล่นสบายใจริมหาดยะนุ้ย จ.ภูเก็ต คนไทยเห็นเดินไปเตือน แต่ไม่สนใจ จนไลฟ์การ์ดต้องนำไปปล่อยคืนทะเล
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (5 เม.ย.) มีการแชร์คลิปในสังคมออนไลน์ของ จ.ภูเก็ต ทั้งเพจและกลุ่มไลน์ต่างๆ โดยเป็นคลิปหญิงสาวชาวจีนกำลังนั่งเล่นปลาดาวและหอยเม่นที่อยู่ในถังน้ำขนาดเล็กสีแดง ซึ่งระบุว่าเป็นหาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยคาดว่าจับขึ้นมาจากทะเลบริเวณดังกล่าว
ซึ่งในโพสต์ยังระบุด้วยว่า นักท่องเที่ยวจีนจับปลาดาวกับหอยเม่นที่หาดยะนุ้ยมาเล่น ร้องเตือนให้เอาไปคืนทะเลก็ไม่ฟัง เห็นแล้วหดหู่จังค่ะ" ซึ่งมีผู้คนต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่น นักท่องเที่ยวไร้คุณภาพ แบบนี้ต้องถอนวีซ่าหรือควรส่งดำเนินคดีตามกฎหมายของบ้านเรา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการเตือนแล้ว แต่นักท่องเที่ยวไม่ให้ความร่วมมือ ทางไลฟ์การ์ดซึ่งดูแลความปลอดภัยอยู่ที่ชายหาดยะนุ้ย ได้นำปลาดาวและหอยเม่นจากนักท่องเที่ยวจีนรายดังกล่าวปล่อยกลับทะเล
สำหรับดาวทะเล หรือปลาดาว เป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะทั่วไปมีลำตัวแยกเป็นห้าแฉกคล้ายรูปดาวเรียกว่า แขน ส่วนกลางมีลักษณะเป็นจานกลม ด้านหลังมีตุ่มหินปูนขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป มีปากอยู่ด้านล่างบริเวณจุดกึ่งกลางของลำตัว ใต้แขนแต่ละข้างมีหนวดสั้นๆ เรียงตามส่วนยาวของแขนเป็นคู่ๆ มีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อที่เหนียวและแข็งแรง ใช้สำหรับยึดเกาะกับเคลื่อนที่ มีสีต่างๆ ออกไป ทั้งขาว ชมพู แดง ดำ ม่วง หรือน้ำเงิน เป็นต้น
พบอยู่ตามชายฝั่งทะเล โขดหิน และบางส่วนอาจพบได้ถึงพื้นทะเลลึก กินหอยสองฝา โดยเฉพาะหอยนางรม กุ้ง ปู หนอน และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ เช่น ฟองน้ำหรือปะการัง เป็นอาหาร แม้ว่าปลาดาวหรือดาวทะเล ไม่จัดอยู่ในบัญชีสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แต่การหยิบจับสัตว์ทะเลขึ้นมาจากน้ำอาจทำให้สัตว์ทะเลได้รับบาดเจ็บหรือตาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่นั้นในอนาคต
ขณะที่ลักษณะทั่วไปของเม่นทะเล หรือหอยเม่น จะมีรูปร่างกลมมนหรืออาจจะค่อนข้างแบนแล้วแต่ชนิด รอบๆ ตัวจะมีสีดำและหนามอยู่รอบตัว เม่นทะเลมีหนามแหลมปกคลุมบนลำตัวซึ่งมีอยู่ 2 ชนิดคือ หนามใหญ่กับหนามเล็ก โดยหนามใหญ่บางชนิดสั้น บางชนิดยาวและมักจะเปราะ ส่วนใหญ่แล้วหนามนี้ไม่มีพิษ ซึ่งมีส่วนประกอบของหินปูนกับสารอินทรีย์ เมื่อทิ่มเข้าผิวหนังของผู้เคราะห์ร้ายมักจะหักติดกับเนื้อใต้ผิวหนัง แม้ว่าจะพยายามบ่งออกเท่าไรก็ไม่ออกเพราะว่ามันเปราะนั่นเอง เมื่อปล่อยทิ้งไว้ 2-3 วันจะละลายหายไปเอง
ส่วนหนามเล็กในบางชนิดจะมีพิษ หนามเล็กนี้สั้นและเล็กกว่าหนามใหญ่อยู่ระหว่างหนามใหญ่ ส่วนมากจะพบทางด้านล่างของลำตัว ในชนิดที่มีพิษ เช่น Asthenosoma varium Grube ที่ส่วนปลายหนามจะมีถุงน้ำพิษอยู่ เมื่อทิ่มเข้าสู่ผิวหนังจะทำให้ได้รับความความเจ็บปวด แต่ในบางชนิดก็ไม่มีพิษ นอกจากหนามทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวแล้ว เม่นทะเลยังมีอวัยวะอีกอย่างหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นก้านเล็กๆ คล้ายเกสรดอกไม้อยู่ระหว่างหนามทั้งสองปกคลุมลำตัวอยู่เรียกว่า เพดดิเซลลาเรีย ก้านเล็กๆ นี้มีลักษณะแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิด ซึ่งจะมีเขี้ยวพิษ 2-4 อัน แต่โดยทั่วไปมักจะมี 3 อัน และมีต่อมน้ำพิษอยู่ ซึ่งพิษนี้ของบางชนิดร้ายแรงมากอาจจะทำให้ผู้เคราะห์ร้ายถึงแก่ชีวิตได้
สำหรับเม่นทะเลเป็นสัตว์คุ้มครองที่สามารถจับนำมารับประทานได้ เว้นแต่หากจับจากพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ หรือเขตคุ้มครองสัตว์น้ำทางทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.ก.การประมง 2558 มีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท