ยะลา - เกษตรอำเภอเบตงเผยสวนทุเรียนในพื้นที่รับผลกระทบจากอากาศร้อนต้นตายแล้วกว่า 10 แปลง จากการประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำทางการเกษตรในพื้นที่สูง
วันนี้ (2 เม.ย.) น ส.อาภรณ์ รัตนพิบูลย์ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอเบตง เปิดเผยว่า อำเภอเบตง เป็นอำเภอที่มีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทุเรียนกว่า 42,000 ไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จากเมื่อก่อนจะมีพื้นที่ปลูกยางพาราเป็นหลัก ปัจจุบันพื้นที่ปลูกยางพาราหลายส่วนได้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนไปแล้ว ซึ่งมีพื้นที่ปลูกกว่า 42,000 ไร่ ให้ผลผลิตกว่า 20,000 ไร่ แนวโน้มการปลูกทุเรียนที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะปัญหาในพื้นที่เรื่องของแหล่งน้ำทางการเกษตร ซึ่งทุเรียนเป็นพืชที่ต้องการน้ำปริมาณที่มาก ใน 1 ต้นขนาดใหญ่ ต้องการประมาณ 200 ลิตรแล้วแต่ขนาดต้นทุเรียน
ซึ่งจากยางพาราที่ไม่ต้องดูแลมาก ไม่ต้องมีระบบน้ำ ปัจจุบันพอเปลี่ยนเป็นการปลูกทุเรียน เกษตรกรหลายรายจำเป็นต้องมีระบบน้ำ ทำให้เกิดการแย่งชิงน้ำกันบ้าง ซึ่งคำแนะนำของเกษตรอำเภอเบตงสำหรับเกษตรกรที่จะปลูกทุเรียน อย่างแรกคือ ต้องสำรวจแหล่งน้ำให้มั่นใจว่าเราสามารถหาแหล่งน้ำในการดูแลต้นทุเรียนของเราได้ ทำระบบน้ำ จัดหาแหล่งน้ำให้เรียบร้อยก่อนที่จะปลูกทุเรียน
รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอเบตง กล่าวอีกว่า สำหรับต้นที่โตแล้วแต่ว่ายังไม่มีแหล่งน้ำจะแนะนำให้จัดหาแหล่งน้ำ อาจมีการวางระบบน้ำ คือการขุดบ่อ วางระบบของท่อน้ำจากบนเขาที่อยู่ในเขตสวนของตนเอง อย่างปีนี้เป็นปีที่อากาศร้อนมาก ทำให้ทุเรียนหลายแปลงในพื้นที่อำเภอเบตงได้รับผลกระทบกว่า 100 แปลง ยังไม่เสียหายมาก แต่ถ้าได้รับความเสียหายระดับต้นตายจะมี 10 กว่าแปลง จากการประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำทางการเกษตรในพื้นที่สูง พร้อมแนะนำหากไม่สามารถจัดหาแหล่งน้ำได้ การตัดหญ้าอาจจะช่วยได้บางส่วน หากสวนที่ปลูกทุเรียนมีแหล่งน้ำไม่เพียงพอหรือมีไม่มาก ถ้าเราตัดหญ้าโล่งเตียน ฉีดหญ้าจนแห้งตายหมด ทำให้การสูญเสียน้ำมีเยอะขึ้น อาจจะไว้หญ้าบ้างเพื่อรักษาหน้าดิน รักษาความชื้นในดินเอาไว้
“สำหรับปีนี้ที่แห้งแล้งมากถึงแม้ว่าความแล้งจะเป็นส่วนหนึ่งการกระตุ้นตาดอกทุเรียน แต่ยังแนะนำให้เกษตรกรให้รดน้ำอยู่เรื่อยๆ เพราะถ้าไม่ให้น้ำเลย หากเมื่อฝนมาจะทำให้ดอกร่วงได้ แต่ว่าในขณะนี้ความแล้งในพื้นที่อำเภอเบตง พอทุเลาไปได้หน่อย เนื่องจากใน 1-2 วันนี้มีฝนตก ทำให้ช่วยเกษตรชาวสวนได้เยอะ” น.ส.อาภรณ์ รัตนพิบูลย์ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอเบตง กล่าว
