สุราษฎร์ธานี - 2 โจ๋ไม่กลัวบาป บุกเข้าไปงัดตู้รับเงินบริจาคใต้ฐานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ในวัดดังบนเกาะสมุย กวาดเงินไป 3 พันบาท อ้างนำไปใช้หนี้ค่ายาเสพติด
วันนี้ (2 เม.ย.) ศูนย์วิทยุ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการวัดบ่อพุทธาราม หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ว่า มีคนร้ายบุกเข้าไปงัดตู้บริจาคใต้ฐานหลวงปู่ทวด ทรัพย์สินของวัดเสียหาย และเงินบริจาคหายไปจำนวนมาก ทาง พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.สภ.บ่อผุด ได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
โดยตำรวจสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขณะคนร้าย 2 คนใช้เสื้อคลุมหัวเป็นไอ้โม่ง บุกเข้าไปงัดตู้บริจาค หลังก่อเหตุเดินออกมาเห็นกล้องยกหัวแม่โป้งแบบกดไลก์อีกหนึ่งครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เเกะรอยจนทราบว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน และติดตามจับกุมได้โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ภายในแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างแห่งหนึ่งห่างจากวัดไม่มากนัก พบนายธีรเทพ อายุ 17 ปี ภูมิลำเนา อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ ด.ช.วาเลนไทน์ อายุ 15 ปี ภูมิลำเนา อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พร้อมยึดของกลางเงินเหรียญบาทและเหรียญชนิดต่างๆ ประมาณ 3,000 บาท และคีมเหล็กขนาดใหญ่ อุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ และนำตัวไปทำการสอบสวนที่หน่วยบริการประชาชนสามแยกบ้านบ่อผุด
โดยมีคณะกรรมการวัดร่วมตรวจสอบ ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุจริง โดยได้เเอบเข้าไปงัดตู้บริจาคเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ค่ายาเสพติด
นายธีรเทพ อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ตนติดยาเสพติดมา 2-3 ปี ก่อนเกิดเหตุได้มีเพื่อนชายคนหนึ่งที่ตนติดหนี้สินจำนวนหนึ่ง เป็นหนี้สินมาจากค่ายาเสพติด บอกให้ตนหาเงินมาใช้หนี้ และตนได้ชวน ด.ช.วาเลนไทน์ มาร่วมก่อเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า พ่อกับแม่แยกทางกัน พ่อติดคุกในคดียาเสพติด ส่วนแม่ไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต ส่วนตนกับ ด.ช วาเลนไทน์ รับจ้างทำงานทั่วไป และมักจะมาเดินในวัด และบางครั้งเคยขอข้าววัดกิน
ด้านเจ้าอาวาสวัดบ่อพุทธาราม ไม่เอาเรื่อง และให้โอกาสกับเด็กผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่วนการดำเนินคดีอย่างไรนั้นให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ