ในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งระยะนี้ ได้ส่งผลให้อ้อยในไร่พื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านลาหงา ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล มีรสชาติที่หวานหอมและพร้อมจะบริโภคสู่ตลาดที่มีความต้องการในระยะนี้เพื่อดื่มคลายร้อน
นายเจ๊ะหยัน ลัดเลีย วัย 74 ปี เปิดเผยว่า ทำมาแล้วหลายอาชีพแล้ว ทั้งประมงและทัวร์นำเที่ยว แต่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เมื่อหันมาตั้งหน้าตั้งตาทำไร่อ้อย แม้จะเป็นอาชีพที่ไม่โดดเด่น แต่เลี้ยงครอบครัวได้ โดยตัดสินใจโค่นสวนต้นยางพารา 7 ไร่เพื่อปลูกอ้อยพันธุ์สายน้ำผึ้งนานร่วม 12 ปี ด้วยรสชาติอร่อย หอมหวาน ขายได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอน ยอดสั่งซื้อจะดีมากหลายเท่าตัว
การปลูกอ้อยจะปลูกเพียงครั้งเดียวให้ผลผลิตนานถึง 7 ปี จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับไผ่เพียงตัดให้เหลือหน่อไว้ การดูแลให้ปุ๋ยบำรุงดินและตกแต่งพันธุ์อ้อยให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ตรงตามความต้องการของตลาดผู้บริโภคที่นิยมซื้อเป็นลำเพื่อไปขายต่อ และสั่งเป็นน้ำอ้อยที่คั้นสำเร็จรูปก็สร้างรายได้อย่างงามให้แก่ครอบครัวของคุณลุงเจ๊ะหยัน
นายเจ๊ะหยัน กล่าวว่า อ้อยพันธุ์นี้มีรสชาติหวานหอม ก่อนหน้านี้เคยปลูกพันธุ์สิงคโปร์ช่วงหลังๆ ไม่ได้รับความนิยม การปลูกอ้อยอยู่ที่การดูแล บางคนปลูก 1 ปีหรือ 2 ปีก็ผ่านพ้นไม่ได้ตกแต่งดูแล สำหรับที่นี่ดูแลพันธุ์อ้อยเพียงครั้งเดียวอยู่ได้ 6-7 ปี สร้างรายได้ปีละแสนบาท อนาคตอยากจะกระตุ้นให้ลูกหลานเดินตามรอยแปรรูปและส่งเสริมการปลูกอ้อยเป็นสินค้า OTOP จากอ้อยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาหมู่บ้านเรา หากสนใจติดต่อมาช่องทางเบอร์โทร 08-2428-3950
นายวิทวัส เกษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านลาหงา บอกว่า ก่อนหน้านี้จะมีการปลูกปาล์มน้ำมัน ในช่วงนั้นต้นปาล์มยังเล็กอยู่มีการนำอ้อยมาปลูกเสริม ในช่วงแรกๆ จะเป็นการเร่ขายภายในหมู่บ้าน หลังจากนั้นมีเพื่อนบ้านต่างจังหวัดเข้ามาซื้อวันละหลายตัน ในขณะนั้นจะมีเพียง 5-6 เจ้าเท่านั้น ปัจจุบันมีหลายร้อยไร่ ตอนนี้ 10 กว่าเจ้าภายในหมู่บ้านขายตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ
สำหรับพื้นที่หมู่ 4 บ้านลาหงา จะปลูกต้นอ้อยไม่น้อยกว่า 200 ไร่ เฉลี่ยเจ้าละประมาณ 3 ไร่ โดยอ้อยที่ปลูกพันธุ์สายน้ำผึ้งจะมีเปลือกที่บาง ลูกค้าจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้มาหาซื้ออ้อยจากที่นี่ ต้นอ้อยที่ตัดขายได้ต้องอายุ 8 เดือนขึ้นไป เลือกสีลำอ้อยที่น้ำตาลแก่เข้ม ลูกค้าจะจะมาซื้อเป็นลำวันละ 400-600 กิโลกรัมๆ ละ 6 บาท หากทำเป็นน้ำอ้อยคั้นขายวันละ 200 ถุงๆ ละ 7 บาท ส่วนขวดละ 10 บาท
ด้าน น.ส.มนัสนันท์ นุ่นแก้ว เกษตรอำเภอละงู เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรอำเภอละงูจะเข้ามาช่วยผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย จะผลักดันให้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อจัดวิสาหกิจชุมชน โดยเกษตรอำเภอละงูจะเข้ามาส่งเสริมในเรื่องของการบริหารจัดการกลุ่ม การแปรรูป เท่าที่ดูกลุ่มนี้มีการแปรรูปเบื้องต้น ทั้งแปรรูปเป็นน้ำอ้อย และน้ำตาลอ้อย อาจจะมีการต่อยอดให้มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น