นครศรีธรรมราช - พบศพ “โกหมาส” เจ้าของสนามชนไก่ อ.สวี ชุมพร ถูกฝังดินใน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช สภาพมีเชือกมัดเท้า มัดมือไพล่หลัง มีเทปกาวพันใบหน้า คาดถูกราดซ้ำด้วยน้ำกรด ผบก.นครศรีธรรมราชขอระบุอัตลักษณ์ก่อน เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับทีมสังหาร
วานนี้ (26 มี.ค.) ช่วงค่ำ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน กก.สืบสวนภูธรนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ระบุพิกัดจุดฝังศพของนายขนบ สมหวัง หรือ “โกหมาส” อายุ 56 ปี เจ้าของสนามชนไก่ ต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร ได้แล้ว หลังหายตัวไปตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยการสืบสวนพบข้อมูลว่า คนร้ายได้นำศพมาฝังใกล้ต้นไม้ใหญ่ท้ายสวนปาล์มบนหุบเขาหมู่ 2 ต.บ้านลำนาว รอยต่อกับหมู่ 11 ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตลอดทั้งวันในการค้นหาจนกระทั่งพบจุดต้องสงสัยจึงเปิดดินจากร่องรอยคล้ายถูกขุดกลบจนพบมีกลิ่นโชยออกมากจึงมั่นใจว่าเป็นศพจึงมีการขุดค้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
การขุดค้นครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์เป็นชุดขุด โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าคอยเก็บหลักฐานที่พบอย่างละเอียด จนกระทั่งกู้ศพขึ้นมาได้ สภาพยังมีเชือกมัดเท้า มัดมือไพล่หลัง มีเทปกาวพันใบหน้า ยังพอจำเค้าหน้าที่สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงินขาสามส่วน ช่วงกลางลำตัวเปื่อยยุ่ย สันนิษฐานว่าจะถูกน้ำกรดเข้มข้นตามที่พบหลักฐานแกลลอนก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงเร่งกู้ศพโดยแพทย์เวรชันสูตร รพ.บางขัน นครศรีธรรมราช แต่ต้องส่งศพไปศูนย์นิติเวช รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียด รวมทั้งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้ชัดเจน
พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า แม้จะเชื่อว่าเป็นศพของนายขนบก็ตาม แต่ขั้นแรกหลังพบศพคือเจ้าหน้าที่ต้องระบุอัตลักษณ์บุคคลให้ชัดเจน และชันสูตรสาเหตุการตาย ส่วนทางคดีนั้นต้องดำเนินการเชื่อมโยงกันทั้ง จ.ชุมพร และนครศรีธรรมราช และจุดพบรถริมฝั่งแม่น้ำโขงต่อเนื่องกัน สำคัญคือจะต้องระบุพื้นที่ก่อเหตุการณ์ทำให้ตายนั้นเกิดขึ้นที่ไหนอย่างไร
ขณะที่ชุดสืบสวนรายหนึ่งเปิดเผยว่า ทีมสังหารนายขนบมหรือโกหมาสนั้น แท้ที่จริงเจ้าหน้าที่ได้จับกุมก่อนหน้านี้หมดทั้ง 3 คนแล้ว เป็นคนในพื้นที่ อ.ทุ่งสง และบางขัน แต่เป็นคดีอื่น เช่น พ.ร.บ.อาวุธปืน คดีลักทรัพย์ และคดียาเสพติด คดีที่ถูกจับนั้นได้ถูกประกันตัวไปแล้วทั้งหมด ส่วนคดีลักพาตัวและฆาตกรรมนั้นไม่สามารถออกหมายจับได้ในขณะนั้นเนื่องจากไม่มีศพ แต่หลังจากพบศพแล้วพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องจะได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมเพิ่มเติม
ส่วนซากรถที่พบก่อนหน้านี้เชื่อว่าเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุและบรรทุกศพ อาจะมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะเลือดจำนวนมาก จึงถูกรื้อทำลายแยกส่วน ส่วนที่เผาได้จึงถูกเผาเพื่อทำลายหลักฐานนั่นเอง