xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แกะรอยตามจับผู้ต้องหาแทงคู่อริดับที่เชียงใหม่ พบกบดานอยู่ชุมพรนาน 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ชุดสืบสวนตำรวจทางหลวงตามจับผู้ต้องหาตามแบล็กลิสต์ แทงคู่อริ 14 แผลดับที่เชียงใหม่ พบหนีคดีมากบดานที่ชุมพรนาน 5 ปี สารภาพคู่อริยกพวก 4 คนมารุมทำร้ายจึงจวนตัวใช้เหล็กแหลมแทงเพื่อป้องกันตัว

วันนี้ (20 มี.ค.) ตำรวจชุดสืบสวนและฝ่ายปราบปรามตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.อ.ชนฤกดิ พงศ์ศิริ ผกก.7 บก.ทล. พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล. พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล.ทร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี รอง สว.ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. ได้เข้าแผนปฏิบัติการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในห้วงระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 19-25 มีนาคม
โดยเป้าหมายคือ นายหนึ่งนรินทร์ กะติวงค์ อายุ 42 ปี หรือหนึ่ง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฝาง ของปี 2561 ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเป็นผู้ต้องหาตามแบล็กลิสต์ หรือประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลำดับที่ 101 ซึ่งหนีการจับกุมมานาน 5 ปี หลังจากที่สืบทราบว่า นายหนึ่งนรินทร์ ได้หนีการจับกุมในคดีแทงคู่อริเสียชีวิตในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มากบดานอยู่กับญาติในพื้นที่หมู่ 4 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร


แผนการจับกุม นายหนึ่งนรินทร์ เริ่มจากชุดสืบสวนตำรวจทางหลวงได้วางแผนสะกดรอยตามญาติสนิทที่นายหนึ่งนรินทร์ มาอาศัยอยู่ด้วย โดยตามแกะรอยขณะญาติสนิทคนนี้ขณะเดินทางด้วยรถสองแถวกลับเข้าบ้าน เพื่อให้ชัวร์ว่ายังพักอยู่ด้วยกันจริง ๆ ปรากฏว่าเมื่อถึงบ้านพบ นายหนึ่งนรินทร์ นั่งอยู่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมโดยไม่มีโอกาสหลบหนี

แต่ในชั้นการจับกุม นายหนึ่งนรินทร์ ยังคงให้การปฏิเสธ โดยคดีย้อนหลังไปเมื่อปี 2561 นายหนึ่งนรินทร์ มีเรื่องกับเพื่อนบ้านกรณีหมาของตัวเองไปกินไก่ของเพื่อนบ้าน และใช้อาวุธแทงเพื่อนบ้าน 14 แผลเสียชีวิต และหนีลงมากบดานอยู่กับญาติที่ จ.ชุมพร

แต่จากการสอบสวน นายหนึ่งนรินทร์ บอกว่า แค่ป้องกันตัวเนื่องจากคู่อริยกพวก 4 คนมารุมทำร้าย และพยายามวิ่งหนีแล้วแต่ยังถูกตามมาทำร้าย ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีอาวุธในมือ เมื่อจวนตัวจึงได้ใช้เหล็กแหลมแทงคู่อริที่ยกพวกมารุมทำร้ายเพื่อป้องกันตัว และมาทราบภายหลังว่าเสียชีวิตจึงหนีลงมาอยู่ที่ จ.ชุมพร

และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยติดคุกในคดีจ้างวานฆ่ามาแล้ว 1 คดี และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2559


กำลังโหลดความคิดเห็น