xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจ ภ.8 สนธิกำลังตำรวจภูเก็ตลุยค้นโกดังเก็บรถเช่าบริษัทต่างชาติ คาดใช้นอมินีถือหุ้น ยึดรถจักรยานยนต์-รถยนต์กว่า 100 คัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แทบไม่เหลืออาชีพให้คนไทย ลุยค้นโกดังเก็บรถเช่าชาวต่างชาติในภูเก็ต คาดใช้คนไทยถือหุ้นเป็นนอมินี ยึด รถจักรยานยนต์ รถยนต์ไว้ตรวจสอบกว่า 100 คัน เชื่อเป็นเครือข่ายใหญ่ เกี่ยวข้องเช่าอสังหาริมทรัพย์ผ่านแอป



วันนี้ (19 มี.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาตรการการจับกุมปราบปรามการกระทำผิดของคนต่างด้าวในจังหวัดภูเก็ต พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบขยายผลการกระทำความผิดของชาวต่างชาติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต หลังพบว่าในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีการกระทำความผิดของชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม หลังประชุมและลงพื้นที่ ได้มีการแถลงสรุปผลการดำเนินการต่อสื่อมวลชน โดย พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจากการดำเนินการพบว่า มีการกระทำความผิดของคนต่างชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสูงขึ้น เช่น ความผิดเมาแล้วขับ ประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต การหลบหนีเข้าเมือง การกระทำที่ผิดต่อชีวิตและทรัพย์สิน การกระทำความผิดที่เกี่ยวกับเพศ รวมไปถึงการต่อสู้และขัดขวางเจ้าพนักงาน


ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 67 พบว่าชาวต่างชาติมีการกระทำความผิด จำนวน 614 ราย โดยมีการรวบรวมพฤติกรรมต่างๆ ส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และมีการเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรไปแล้ว 98 ราย แต่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ การเข้ามาประกอบอาชีพของชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติเข้าไปถือหุ้นตามอัตราและสัดส่วน ตามที่กฎหมายกำหนด แต่หลังจากถือหุ้นแล้ว มีการนำนิติบุคคลไปว่าจ้างให้ชาวต่างชาติประกอบอาชีพ


ซึ่งจะนำไปสู่การขอใบอนุญาตทำงานยังสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต หลังจากได้รับอนุญาตทำงานมาแล้วจะไปเปิดบัญชีเงินฝาก เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินและเริ่มอยู่ในฐานะคนทำงาน มีรายได้ต่างๆ ที่น่าห่วงคือ ไปเช่าหรือเช่าในระยะยาวอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ หลังจากเช่าแล้วจะนำมาประกอบกิจการ เมื่อดูจากเอกสารจะเห็นได้ว่าเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย ดำเนินการโดยคนไทย แต่เมื่อดูเชิงลึกจะพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย แล้วใช้คนต่างชาติทำงาน แต่ใบอนุญาตจะไม่ตรงกับการอนุญาต ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบกันอย่างละเอียด


พล.ต.ท.สุรพงษ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า วันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายต้องสงสัย ใช้เป็นสถานที่ให้เช่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ของบริษัทซึ่งมีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้น และเคยมีการจับกุมชาวต่างชาติ ไปก่อนหน้านี้ในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าสืบสวนขยายผล จนเป็นที่มาของการเข้าตรวจค้นสถานที่เก็บรถเช่าในครั้งนี้ ซึ่งจากการตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ และรถยนต์จำนวนมากกว่า 100 คัน ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดรถทั้งหมดไว้ตรวจสอบว่าที่มาของรถเหล่านี้เป็นอย่างไร


อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเอกสารของบริษัทต่างชาติที่ให้เช่ารถอยู่นั้น ยังมีชาวต่างชาติเข้ามาเช่ารถ โดยผ่านแอปพลิเคชัน 2-3 แอป ซึ่งการให้เช่ารถดังกล่าวผิดเงื่อนไขที่อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ซึ่งการปฏิบัติงานครั้งนี้มีการสนธิกำลังจากหลายหน่วยงาน เช่น ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตม. และตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เป็นต้น โดยมีการรวบรวมข้อมูลต่างๆ และเมื่อพบการกระทำความผิดเราจะเสนอต่อศาลขอหมายค้นและเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดยกำหนดให้ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รายงานผลการปฏิบัติงานดังกล่าวทุก 10 วัน


พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเชื่อได้ว่าการเข้าไปใช้พื้นที่จอดรถน่าจะเป็นชาวต่างชาติเป็นผู้ลงทุน และเชื่อว่าเป็นการทำเป็นเครือข่าย ซึ่งนอกจากจะทำเรื่องของรถเช่าแล้ว ยังมีเรื่องของการเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุดด้วย เช่าห้องพัก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล แต่พบว่าเป็นการเช่าระยะยาว ส่วนจะไปให้เช่าช่วงหรือเปล่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่เข้าข่ายต้องสงสัย ขณะนี้มีเป้าหมายในการตรวจสอบ 5 เป้าหมาย


ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร.กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้เล็งเห็นและมีความห่วงใยการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเป็นจำนวนมาก บางส่วนอาจมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตมีการระดมกำลังออกกวาดล้างอาชญากรรม ซึ่งผลการปฏิบัติงานนั้นเป็นที่น่าพอใจ มีการจับกุม มีการเพิกถอนวีซ่านักท่องเที่ยว ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวจริงๆ มีความสบายใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว และสิ่งหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วง คือเรื่องของความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน จึงได้สั่งการให้มีการอบรมยุทธวิธีในการต่อสู้ การเข้าจับกุม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด




กำลังโหลดความคิดเห็น