ชุมพร - เปิดยุทธศาสตร์ทุเรียนไทยบุกตลาดจีน ระบุชุมพรเป็นเมืองหลวงผลไม้ภาคใต้ และมีศูนย์กลางตลาดกลางรับซื้อส่งออกผลไม้ใหญ่สุดของภาคใต้ โดยเฉพาะผลผลิตทุเรียนมีพื้นที่ปลูก และมีผลผลิตอับดับ 1 ในภาคใต้
สำหรับจังหวัดชุมพรนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเมืองแห่งผลไม้ และเป็นศูนยกลางการส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศ ล่าสุด นายวรัตม์ มาประณีต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า จังหวดชุมพรเป็นเมืองหลวงผลไม้ภาคใต้ และมีศูนย์กลางตลาดกลางรับซื้อส่งออกผลไม้ใหญ่สุดของภาคใต้ โดยเฉพาะผลผลิตทุเรียนมีพื้นที่ปลูกและมีผลผลิตอับดับ 1 ในภาคใต้ และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ได้เปิดโครงการยุทธศาสตร์ทุเรียนไทยบุกตลาดประเทศจีนประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567
“โดยสภาเกษตรกรจังหวัดชุมพร จัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทุเรียนให้ได้มาตรฐานการผลิตเป็นไปตามมาตรการและมุ่งเน้นความมั่งคงในอาชีพการทำสวนทุเรียนของเกษตรกรจังหวัดชุมพร สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในด้านของคุณภาพและความต้องการผลผลิตคุณภาพเพิ่มขึ้นสู่ตลาดทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งมีเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน องค์กรเกษตรกร ผู้ประกอบการ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก”
นายวรัตน์ กล่าวว่า โครงการยุทธศาสตร์ทุเรียนไทยบุกตลาดประเทศจีน เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ตลาดทุเรียนไทย จีน และเวียดนาม ในปัจจุบัน และการผลิตทุเรียนแบบลดต้นทุน แต่ให้ได้คุณภาพสูง ผลักดันมาตรฐานทุเรียนชุมพรเพื่อการส่งออกต่างประเทศ รวมไปถึงการส่งเสริมงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในด้านของคุณภาพ การตลาดทั้งในและนอกประเทศ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีความมั่นคงในการทำอาชีพเกษตรกรรม โดยหวังสร้างความเข้าใจในการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานต่อไป เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อเกษตรกรทุกคน
ด้านนายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า จังหวัดชุมพรเป็นแหล่งผลิตทุเรียนมากที่สุดในภาคใต้ รองจากภาคตะวันออก พื้นที่กว่า 279,254 ไร่ คิดเป็น 11.88% ของพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมด พื้นที่เก็บเกี่ยว 221,768 ไร่ ผลผลิตรวม 271.470 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 1.224 กก. เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมีจำนวน 25,490 ราย และมีโรงคัดบรรจุผลไม้ 439 แห่ง
ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวต่อว่า อนาคตทุเรียนไทยมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา ทั้งปริมาณการผลิตและความต้องการของโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า ควรวิเคราะห์การผลิตทุเรียนและความต้องการของตลาดโลก ควรเน้นคุณภาพและมาตรฐาน ปฏิเสธทุเรียนอ่อนและคุณภาพไม่ดี แปรรูปทุเรียนให้หลากหลาย ไม่เฉพาะทุเรียนอบแห้ง และใช้ส่วนผสมของทุเรียน ควรขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ นอกจากจีนและฮ่องกง เช่น สหรัฐฯ และสิงคโปร์ และเน้นทุเรียนที่มีเอกลักษณ์ท้องถิ่น เช่น ทุเรียนนนทบุรี หลงลับแล อุตรดิตถ์ และอื่นๆ อีกด้วย
