ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ต่างชาติโหดฆ่าปาดคอหนุ่มชาวรัสเซียดับคาฟาร์มกัญชาในพื้นที่ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต แฟนสาวผู้เสียชีวิตผิดสังเกตหายตัวไปนาน 2 วัน เช็ก GPS ตะลึง พบกลายเป็นศพ ส่วนคนก่อเหตุหนีไปต่างประเทศแล้ว
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (13 มี.ค.) พ.ต.ต.วราวุฒิ เส็นโสบ สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นายบุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี คนดูแลรถเช่าว่า ตนได้รับการติดต่อจากหญิงสาวชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นแฟนของชายชาวรัสเซียคนที่เช่ารถเก๋งที่ตนดูแลหายตัวไป 2 วันแล้ว ขอให้ตนช่วยเช็กจีพีเอสรถว่าอยู่ที่ไหน จนกระทั่งตนและหญิงสาวชาวรัสเซียได้ติดตามจีพีเอสมาพบรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีขาว ทะเบียน กธ 739 พัทลุง จอดอยู่หน้าบ้านเลขที่ 49/18 หมู่ 6 ซ.ไสน้ำเย็น ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เมื่อเข้าไปดูที่บ้านพบว่า ประตูล็อกจากด้านใน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมตรวจสอบ ซึ่งเกรงว่าด้านในอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นกับชายชาวรัสเซียดังกล่าว หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกรัตน์ พลายด้วง ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.อ.สมนึก วรรณชิต ผกก.พฐ.จว.ภูเก็ต นำกำลังชุดสืบสวน สายตรวจ เจ้าหน้าที่ พฐ.รุดไปตรวจสอบ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านขนาด 2 ชั้นอยู่บนเนินเขา ชั้นล่างล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พังประตูเข้าไป พบด้านในมีการทำฟาร์มกัญชา ที่พื้นพบร่างชายชาวต่างชาติ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว สวมกางเกงขาสั้นสีดำ สภาพศพมีบาดแผลที่ลำคอและตามร่างกายหลายแห่ง คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชม.
ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นาย ARTUR MKHITARIAN อายุ 42 ปี สัญชาติรัสเซีย ตรวจสอบบริเวณโดยรอบมีร่องรอยการต่อสู้ มีต้นกัญชาล้มระเนระนาด จึงนำศพส่ง รพ.วชิระภูเก็ตเพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับประสานสถานทูตรัสเซียประจำ จ.ภูเก็ตทราบ
นอกจากนั้น ยังพบกุญแจรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ที่ผู้ตายเช่ามาถูกโยนทิ้งไว้ในป่าข้างบ้าน เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำกลับไปตรวจลายนิ้วมือแฝง เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับประสานหญิงไทยที่เป็นคนเช่าบ้านหลังดังกล่าวเข้าให้ปากคำที่ สภ.ฉลอง เพื่อคลี่คลายคดี
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นาย ARTUR MKHITARIAN ได้เข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ม.ค.67 โดยถือวีซ่ากลุ่มได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเป็นกรณีพิเศษ 90 วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 26 เม.ย.67 ซึ่งจะพำนักอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ส่วนบ้านหลังเกิดเหตุมีหญิงสาวชาวไทยเป็นคนเช่าให้แฟนหนุ่มต่างชาติ เพื่อเปิดบริษัทท่องเที่ยว แต่ติดปัญหาบางอย่าง จึงหันมาปลูกกัญชาแทน จากนั้นได้มีชาวต่างชาติแวะเวียนกันมาที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อซื้อและเสพกัญชากันเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่าหนุ่มรัสเซียในครั้งนี้น่าจะเป็นชาวต่างชาติ สัญชาติ “ทาจิก” ซึ่งเดินเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 มี.ค.67 ถือวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน และคาดว่าในวันเกิดเหตุชาวต่างชาติคนดังกล่าวน่าจะเดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุและมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายซึ่งเป็นชายชาวรัสเซีย จนเกิดการลงมือฆ่ากัน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า ผู้ตายกับคนร้ายเกี่ยวพันกับการค้ากัญชาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าขณะนี้ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชาว “ทาจิก” ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อคืนวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา