นราธิวาส - เจ้าหน้าที่นำตัวคนขับรถบริษัทหาดทิพย์ไปชี้จุดถูกปล้นรถ ชาวบ้านแจ้งพบรถแล้ว จอดข้างทางรอยต่อ อ.ศรีสาครกับ อ.ระแงะ คาดปล้นชิงรถเพื่ออำพรางตัวในการปล้นทรัพย์ นำมาใช้จ่ายซื้อหาเสบียงอาหารยังชีพในป่า โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ จ.นราธิวาส พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.จะแนะ พ.อ.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผบ.ฉก.ทพ.45 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้นำตัวนายอุทัย สุกสีแดง คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ แบบตอนเดียว สีขาว ทะเบียน ผธ 597 สงขลา ของบริษัทหาดทิพย์จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้เสียหาย ไปชี้จุดที่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนปล้นเอารถยนต์กระบะไป ซึ่งบรรยากาศ 2 ข้างทางเป็นป่าสวนยางพารา
ทั้งนี้ พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ริมถนนเชิงเขาเมาะแตในพื้นที่รอยต่อ อ.ศรีสาคร กับ อ.ระแงะ ช่วงบ้านตะเคียนต้นเดียว ม.1 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางร่วมกับ พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้ใช้สุนัขทหารดมกลิ่นทำการตรวจสอบรอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวที่จอดไว้อยู่ในลักษณะรถยนต์ชิดขอบไหล่ถนน ส่วนหน้ารถเบี่ยงเข้าไปในป่า ช่วงเนินสูงของเขาเมาะแต แล้วเจ้าหน้าที่อีโอดีได้ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุโลหะในการตรวจสอบซ้ำ ทั้งภายในห้องโดยสารกระบะบรรทุกหลัง รวมไปถึงห้องเครื่องยนต์ ไม่พบสิ่งแปลกปลอมหรือวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่พบกุญแจรถยนต์ยังเสียบคาพวงมาลัยไว้ จนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงตามที่ต่างๆ รอบตัวรถทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะพวงมาลัยและมือจับประตูเปิดปิดรถ เพื่อนำไปตรวจสอบตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนที่จะนำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมา สภ.ระแงะ
แหล่งข่าวหน่วยความมั่นคงเปิดเผยว่า เหตุที่คนร้ายนำรถยนต์กระบะมาจอดในบริเวณดังกล่าว เนื่องมาจากคนร้ายน่าจะนำกำลังหลบหนีขึ้นไปบนเทือกเขาเมาะแต หรืออาจจะมีการนัดแนะสมาชิกในกลุ่มรวมทั้งแนวร่วมอาจจะนำรถมารับในการหลบหนี หลังจากร่วมก่อเหตุแล้วเสร็จ จากการประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นความน่าเป็นไปได้คือกลุ่มคนร้ายต้องการประสงค์ต่อทรัพย์สินหรือเงินสด จึงได้ก่อเหตุปล้นรถยนต์เพื่อใช้เป็นพาหนะในการอำพรางตัว โดยทรัพย์สินหรือเงินสดที่ได้จะนำมาใช้จ่ายซื้อหาเสบียงอาหารยังชีพในป่า โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนหรือละศีลอด ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาในช่วงระหว่างคาบเกี่ยวเดือนรอมฎอนหรือถือศีลอด กลุ่มคนร้ายเคยก่อเหตุปล้นทรัพย์ในลักษณะนี้มาแล้วเมื่อ 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ แหล่งข่าวรายเดียวกันยังเปิดเผยถึงแนวทางในการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานสำคัญที่คนร้ายได้ทำตกหล่นไว้หน้าร้านอัครวัสดุภัณฑ์ ของนายอัครวิทย์ คือโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบว่าเป็นของผู้ใดที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ในเครื่องนี้ โดยตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือทางทะเบียนราษฎรว่ามีลายนิ้วมือแฝงที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบตามบริเวณต่างๆ ของตัวรถยนต์กระบะหรือไม่ หากตรงกันทราบว่าใครเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ และการติดต่อโทรศัพท์มือถือหมายเลขนี้ที่ผ่านมา ได้โทร.ไปพูดคุยกับใครบ้างในอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคดีนี้ถือว่าไม่ลำบากที่จะสาวไปถึงบุคคล