ชุมพร - ยังไร้วี่แวว! “นายหัวสมาร์ท” เสี่ยบ่อนไก่ชนหายตัวปริศนานาน 1 เดือน 11 วัน ญาติบุกตามคดี ผู้การตำรวจชุมพรแจงทำงานต่อเนื่อง จับผู้ต้องหาแล้ว 5 คน แต่อยู่ในกลุ่มผู้รับซื้อรถยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
จากกรณีพี่ชายนายขนบ สมหวัง หรือ “นายหัวสมาร์ท” เสี่ยเจ้าของสนามชนไก่ชื่อดังในพื้นที่อำเภอสวี จ.ชุมพร หายตัวปริศนา พบแต่รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ที่ขบวนการรับซื้อรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้านจอดทิ้งอยู่ในป่าละเมาะใกล้แม่น้ำโขง เขตพื้นที่ อ.เมือง จ.นครพนม แต่ยังไม่พบตัวผู้สูญหายนาน 1 เดือนกว่าแล้ว นำญาติพี่น้องบุกสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ทวงถามความคืบหน้าของคดี หลังหมดหวังคดีเงียบ
โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 มี.ค.) นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พร้อมญาติมาที่ สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เกี่ยวกับคดีที่นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “นายหัวสมาร์ท” น้องชาย และเป็นเจ้าของสนามชนไก่ได้หายตัวไปพร้อมรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 และภายหลังตำรวจทางหลวงพบยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท 3424 ชุมพร ของนายขนบ ผู้สูญหายจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะริมแม่น้ำโขง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม แต่ยังไม่พบตัวนายขนบ จนถึงวันนี้นาน 1 เดือน 11 วันแล้ว ยังไม่รู้น้องชายเป็นตายร้ายดีอย่างไร และไม่รู้จะพึ่งพาใครนอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเรื่องยังเงียบจำเป็นต้องเดินทางเรียกร้องต่อเพื่อให้เจอน้องชาย
ขณะที่ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า ตำรวจยังติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีอย่างน้อย 5 คน ทราบว่าต่างคนต่างแบ่งหน้าที่กันทำ แต่สำหรับตัวนายขนบ ผู้สูญหายทางตำรวจยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด และยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เนื่องจากยังไม่พบศพ ฉะนั้นตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อไป ส่วนในเรื่องของรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเป็นวัตถุของกลางในคดีได้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องไปทั้งหมดแล้ว
พล.ต.ต.ภานุเดช กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าในเรื่องของการตามหาตัวผู้สูญหายนั้น ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาลงทำงานในลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานให้ญาติผู้สูญหายทราบต่อไป
“เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวพันส่วนตัวกับผู้สูญหาย แต่มีเรื่องความเกี่ยวเนื่องกับการครอบครองรถในห้วงเวลานั้น และสถานที่ต่างๆ นั้น ก็ปรากฏตามพยานหลักฐาน ส่วนที่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจะติดต่อกับผู้สูญหายหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบยังไม่มี”
“ขณะนี้ยังไม่ชี้ชัดได้ 100% ว่า ผู้สูญหายได้หายตัวไปด้วยสาเหตุใด เนื่องจากไม่ยังไม่พบตัว และคำให้การของภรรยาที่ให้ข้อมูลการหายตัวไปของนายขนบ ซึ่งมีอยู่ในสำนวนแล้ว ส่วนว่าจะรับฟังได้ขนาดไหนต้องมาวิเคราะห์อีกที ขณะนี้จับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 5 ราย มีผู้หญิงที่เกี่ยวข้องคดี 1 ราย เป็นชาย 4 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกลุ่มของผู้รับซื้อขายรถ”
ด้าน นายสำราญ สมหวัง กล่าวว่า หลังได้รับคำชี้แจงตนเองรู้สึกดีใจ และใจชื้นขึ้นมาอีกนิดที่ตำรวจยังติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ตนคิดว่าเรื่องคงเงียบหาย แต่หลังจากได้รับคำชี้แจงแล้วเชื่อประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ว่าตำรวจจะติดตามตัวคนร้ายปิดคดีได้ในเร็ววัน จึงขอขอบคุณตำรวจทุกคนที่ยังติดตามคดีนี้ ส่วนปมเหตุส่วนตัวตนเชื่อว่ามาจากเรื่องปัญหาครอบครัว