นครศรีธรรมราช - ป.ป.ช.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบข้อร้องเรียนการทำบ่อดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง พบอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน ตั้งข้อสังเกตกระบวนการออกเอกสารสิทธิ ด้านผู้ประกอบการเชื่อเป็นการกลั่นแกล้งจากคนในพื้นที่
วันนี้ (8 มี.ค.) เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ ป.ป.ช. เข้าตรวจสอบบ่อดินขนาดใหญ่ในพื้นที่อำเภอลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หลังมีการร้องเรียนเบาะแสผ่านศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence center) สำนักงาน ป.ป.ช. กรณีการขุดตักดินโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสี่ยงต่อการรุกล้ำเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ในพื้นที่หมู่ 6 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยพบว่าพื้นที่นี้มีการขุดดินมากกว่า 15 ไร่ โดยมี นายสถาวิทย์ สุวรรณรัตน์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เจ้าหน้าที่นิติกร องค์การบริหารส่วนตำบลกำโลน และนายสิงหา ขุนทน ผู้ประกอบการบ่อดินดังกล่าวเข้าให้ข้อมูล
นายสถาวิทย์ สุวรรณรัตน์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ได้นำแผนที่บ่อดินดังกล่าวเข้าชี้แจงพบว่า พื้นที่บ่อดินอยู่ในเอกสารสิทธิ น.ส.3 แต่มีแนวทับซ้อนอยู่กับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จากพื้นที่ขุดทั้งหมดอย่างน้อย 2 แปลง โดยแปลงทางด้านทิศเหนือเป็นผู้ประกอบการรายอื่นซึ่งได้ถูกระงับการประกอบการ เนื่องจากอยู่ในระหว่างอุทยานได้ส่งไปยังกรมที่ดินขอตรวจสอบการได้มาของเอกสารสิทธิเป็นไปโดยชอบหรือไม่ ส่วนแปลงที่อยู่ถัดมานั้นเป็นแปลงเอกสารสิทธิ น.ส.3 เช่นกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ อบต.กำโลน ได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบยืนยันว่าใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ขุดดินถมดิน ซึ่งจะต้องออกโดยท้องถิ่นนั้นได้ขาดอายุไปตั้งแต่ปี 2565 ส่วนใบอนุญาตโรงงานอุตสาหกรรมนั้นยังไม่สิ้นอายุ และ อบต.ได้แจ้งการขาดอายุไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่มีการเข้าจดต่อใบอนุญาต
นายสิงหา ขุนทน ผู้ประกอบการได้ชี้แจงว่า เหตุที่ไม่ได้จดต่อใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.ขุดดินถมดิน กับท้องถิ่นนั้นเนื่องจากได้หยุดประกอบการมาตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ไม่ได้ไปแจ้งต่ออนุญาต ส่วนใบอนุญาตโรงงานอุตสาหกรรมนั้นยังไม่ขาดอายุ และแจ้งด้วยว่าเข้าใจว่าการร้องเรียนเป็นการกลั่นแกล้งจากคนในพื้นที่ โดยส่วนตัวนั้นรู้จักกันดี
ขณะที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ตั้งข้อสังเกตการตรวจสอบเอกสารสิทธิแปลงที่ดินทางด้านทิศเหนือของผู้ประกอบการรายนี้ มีการดำเนินการระหว่างกรมอุทยานกับสำนักงานที่ดินแล้ว แต่ในแปลงติดกันนั้นยังไม่ได้มีการตรวจสอบทั้งที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และมีการเหลื่อมทับซ้อนอยู่ในเขตอุทยานเช่นเดียวกัน และการขุดดินนั้นก่อให้เกิดพื้นที่ดินสไลด์อยู่ในแนวเขตอุทยาน ดังนั้นจะมีการตรวจสอบไปพร้อมกันด้วยหรือไม่
โดยทางอุทยานแจ้งว่าจะมีการรับไปตรวจสอบเพิ่มเติม ขณะที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดจะเร่งติดตามผลการตรวจสอบการได้มาซึ่ง น.ส.3 แปลงดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบร่วมกันของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง และสำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาลานสกา เพื่อนำไปสู่ความชัดเจนในกรณีนี้แล้ว