ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การภูเก็ตเผยสอบข้อเท็จนายตำรวจถูกอ้างสนิทเมียฝรั่งร่วมโต๊ะกินข้าว บอกแค่เพื่อนชวนไป ไม่ได้สนิทเป็นพิเศษ พร้อมสั่งทุก สภ. ตรวจสอบต่างชาติ ทำตัวมีอิทธิพลให้ขึ้นบัญชี ดำเนินการต่อเพิกถอนวีซ่า
จากกรณีเกิดเหตุชายชาวต่างชาติ คือ นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เตะคุณหมอ ขณะนั่งชมพระจันทร์ เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณบันไดขั้นสุดท้ายหน้าวิลล่าหรู ริมหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นเหตุให้ชาวโซเชียลขุดคุ้ยนายเดวิด และภรรยา และมองว่าพฤติกรรมของสองผัวเมียเข้าข่ายมาเฟียหรือไม่ ทำให้ รมว.มหาดไทย สั่งตรวจสอบเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งปราบปรามชาวต่างชาติที่ทำตัวมีอิทธิพล ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องมาเฟียต่างชาติ นอกจากนี้ ในคืนเกิดเหตุภรรยาของนายเดวิดยังได้ข่มขู่คุณหมอว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ ทำให้ชาวโซเชียลขุดคุ้ยว่านายตำรวจใหญ่ในภูเก็ตคนนั้นเป็นใคร พร้อมทั้งนำภาพที่นายเดวิด ไปนั่งดื่มไวน์กับรองผู้การภูเก็ตคนหนึ่ง แชร์กันว่อนโซเชียล
วันนี้ (4 มี.ค.) พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เรียกผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประชุมมอบนโยบายและข้อสั่งการ ให้ตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพใน จ.ภูเก็ต และมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุก สภ. รวมทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบ และจัดทำบัญชีรายชื่อชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล หากตรวจพบจะต้องมีการขึ้นบัญชีและเพิกถอนวีซ่า ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบชาวต่างชาติที่เข้าข่ายเพิกถอนวีซ่า และยังไม่พบการร้องเรียนของชาวต่างชาติ ว่า ถูกข่มขู่จากชาวต่างชาติด้วยกันเอง หรือคนไทยที่ถูกข่มขู่โดยชาวต่างชาติ
ส่วนคดีล่าสุดของชาวต่างชาติที่เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติ คือ คดีปล้นทรัพย์ โดยชาวรัสเซีย 5 คน และมีการจับกุมผู้กระทำความผิดแล้ว ซึ่งถือวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามา 1 เดือน จากนั้นมาก่อเหตุ สอบถามทราบว่าน่าจะมีประเด็นกันมาตั้งแต่ประเทศรัสเซียแล้ว
ส่วนกรณีข่าวเรื่องมาเฟียนั้น ต้องบอกว่า สำหรับภูเก็ตคงไม่มีมาเฟีย อย่างที่ผู้ว่าฯ ได้แจ้งไปแล้ว แต่จะเป็นลักษณะของการแย่งอาชีพคนไทย ซึ่งตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำชับให้ทุก สภ.ทำการตรวจสอบ เนื่องจากในความเป็นจริงคำว่ามาเฟียจะต้องเป็นองค์กรอาชญากรรมซึ่งทำผิดกฎหมาย เบื้องต้นทางภูเก็ตไม่มี โดยคดีเกี่ยวกับคนต่างชาติในภูเก็ตนั้นได้มีการเก็บตัวเลขไว้ ทั้งความผิดคดีอาญา ซึ่งมีไม่มาก และคดีจราจร ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างมาก
ส่วนกรณีของนายตำรวจที่ถูกภรรยานายเดวิด อ้างว่ารู้จักและโทรศัพท์ไปหา เรื่องนี้ ผู้บังคับการตำรวจภุธรจังหวัดภุเก็ต กล่าวว่า ตนได้สอบถามข้อเท็จจริงซึ่งจากการพูดคุย ทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเพื่อนชวนไปรับประทานอาหาร และมีการถ่ายภาพร่วมกันตามที่ปรากฏในข่าว ซึ่งไม่ได้สนิทสนมเป็นกรณีพิเศษ
ในส่วนการทำคดีนั้นไม่ได้กังวล โดยได้สั่งให้ สภ.ถลาง ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบ ทั้งในส่วนของสายตรวจหรือพนักงานสอบสวน โดยเราให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และมีการดำเนินการตั้งแต่วันแรกที่คุณหมอเข้าแจ้งความแล้ว