xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจสอบแล้ว! ลมเปลี่ยนทิศ ทำสาวจีนเล่นพาราเซลลิ่งลงกระแทกพื้นหน้าแข้งหัก เจ้าของเรือพร้อมจ่ายตามที่นักท่องเที่ยวเรียกร้อง 4 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต – หน่วยงานภาครัฐ ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสาวจีนโพสต์พาราเซลลิ่งภูเก็ตมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ พบอุบัติเหตุเกิดจากลมเปลี่ยนทิศฉับพลัน ด้านผู้ประกอบการพร้อมดูแลเยียวยาค่ารักษาพยาบาล ส่วนสาวจีนออกจากโรงพยาบาลและเดินทางกลับประเทศแล้ว


จากรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปเล่าถึงการประสบอุบัติเหตุขณะเล่นพาราเซลลิ่ง (parasailing) หรือ ร่มร่อน ที่หาดกะรน จ.ภูเก็ต โดยมีใจความว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ระหว่างที่เธอมาเที่ยวภูเก็ต ได้ไปลองเล่นพาราเซลลิ่ง แล้วเกิดอุบัติเหตุตอนร่อนลง ทำให้ขาเธอลงกระแทกพื้นอย่างแรงจนแข้งซ้ายหักครึ่งกระดูกโผล่ออก

พร้อมกับเล่าว่า หลังเกิดอุบัติเหตุว่าจะไปถึงโรงพยาบาลได้จะต้องใช้เวลานานจากการจราจรติดขัด เครื่องมือทางการแพทย์ไม่พร้อมต้องย้ายโรงพยาบาลทำให้ต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงกว่าจะได้ผ่าแข้งที่หักแล้วใส่ดามเหล็กเข้าไป แผลเย็บยาว 15 ซม.


นอกจากนั้น เธอยังได้ระบุถึงประเด็นที่เธอพาดพิงคู่กรณีคนไทยที่ขายพาราเซลลิ่งว่ามาตรการความปลอดภัยต่ำมาก ไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายตามที่เธอเรียกไปประมาณ 200,000 บาท แต่คู่กรณีจะยอมจ่ายเพียง 50,000 บาท พร้อมทั้งเตือนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเมืองไทยอย่าเล่นกีฬาที่ผาดโผน มีความเสี่ยงต่อชีวิต และเธอสังเกตว่าไม่มีคนไทยในพื้นที่เล่นกีฬาผาดโผนพวกนี้เลย มีแต่ชาวต่างชาติรวมทั้งชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก เธอใช้คำว่า “คนพวกนี้ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตพวกเราหรอก เห็นคนต่างชาติแบบตนเป็นแค่แหล่งเงินเท่านั้น”

ทำให้ข้อความและคลิปดังกล่าว กลายเป็นกระแสในโซเซียลในกลุ่มคนจีน มีการชมคลิปไปแล้วกว่า 2 ล้านวิวไป
แล้วในขณะนี้ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (28 ก.พ.) นายณชพงศ ประนิตย์ เจ้าท่าภูมิภาคภูเก็ต พร้อมด้วย ตำรวจท่องเที่ยว ปภ.ภูเก็ต ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปยังจุดที่เกิดเหตุ หาดกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับทางผู้ประกอบการที่ให้บริการพาราเซลลิ่งกับนักท่องเที่ยวรายนั้น และพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการที่จะไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยมีเจ้าของเรือลากร่ม “น้องเพลงเพลง” ซึ่งเป็นเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งการให้การช่วยเหลือและดูแลนักท่องเที่ยวหลังเกิดเหตุ


นายธนพล ผู้ควบคุมร่มร่อน เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุก่อนที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวจีนรายนี้ ได้ให้บริการนักท่องเที่ยวคนอื่นๆมาแล้วหลายราย นักท่องเที่ยวจีนรายนี้มาด้วยกัน 3 คน ต้องการที่จะเล่นพาราเซลลิ่ง เมื่อมาถึงพนักงานได้ตกลงเรื่องราคา และเมื่อตกลงกันได้ ตนจึงได้ไปเตรียมร่มและอุปกรณ์ พร้อมทั้งเช็คสภาพลมกว่าสามารถให้บริการได้หรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าระบบความปลอดภัยต่างๆ พร้อม และสภาพลมก็สามารถให้บริการได้ จึงนำนำท่องเที่ยวขึ้นไป แต่ขณะที่กำลังจะนำนักท่องเที่ยวลง เกิดเหตุลมเปลี่ยนทิศ ทำให้นักท่องเที่ยวเอาขาลงผิดท่า จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น

นายธนพล กล่าวต่อว่า นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการพาราเซลลิ่งไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ เพราะจะมีควบคุมพาราเซลลิ่งให้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ให้บริการมาตลอดไม่เคยอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้น และต่อสภาพอากาศก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


ด้าน นายครรชิต ถ้ำเสือ เจ้าของเรือน้องเพลงเพลง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพาราเชลลิ่งที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ในส่วนของตนได้เข้าไปดูแลนักเที่ยวที่ประสบเหตุตั้งแต่วันเกิดเหตุ และเป็นคนพานักท่องเที่ยวไปส่งโรงพยาบาลเอง ส่วนเรื่องค่าจ่ายพร้อมที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับนักท่องเที่ยวตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ได้จ่ายแค่ 50,000 บาท ตามที่นักท่องเที่ยวโพสต์ แต่เป็นเงินที่สำรองจ่ายให้กับท่องเที่ยวไปก่อนในเบื้องต้น เพราะยังไม่ทราบค่ารักษาที่แท้จริง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการสื่อสารไม่เข้าใจกัน ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่าค่ารักษาพยาบาลนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 120,000 กว่าบาท

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่ชายหาดกะรนในช่วงสายของวันนี้ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาเล่นน้ำ นอนอาบแดด และทำกิจกรรมต่างๆ บนชายหาดอย่างเนืองแน่น ในส่วนของการให้บริการพาราเซลลิ่ง เรือลากบานาน่า ลากโซฟา ยังมีอยู่ตามปกติ เพียงแต่ในช่วงสายของวันนี้สภาพอากาศไม่เหมาะในการให้บริการพาราเซลลิ่ง แต่นักท่องเที่ยวยังใช้บริการเรือลากบานาน่าอยู่บ้าง

สำหรับหาดกะรนนั้น นายครรชิต บอกว่า มีผู้ประกอบการที่ให้บริการเรือลากร่มประมาณ 5 ราย มีเรือประมาณ 20 ลำ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้ง จีน ตะวันออกกลาง และชาติอื่นๆ ราคาอยู่ที่คนละประมาณ 1,200-1,500 บาทต่อคน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที


ขณะที่ นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ระบุว่า เรือลากร่มที่ใบริการนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ คือ “เรือน้องเพลงเพลง” เป็นเรือที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง จากกรมเจ้าท่า อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องประมาณ 10 ปาก ทำให้ทราบ ว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่กำลังพานักท่องเที่ยว 2 คน และผู้ควบคุมร่ม 1 คน ลงพื้น หลังจากขึ้นไปประมาณ 5 นาที ซึ่ง ก่อนจะถึงพื้นประมาณ 2 เมตร ลมเกิดเปลี่ยนทิศทาง โดยผู้ควบคุมร่มกระโดดลงมาก่อนเพื่อประคองร่ม แต่เอาไม่อยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวร่างกระแทกพื้นจนแข้งหักดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรือลำนี้มีการทำประกันภัยภาคบังคับไว้

ส่วนมาตรการการดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้บริการนั้น เจ้าท่าภูมิภาคภูเก็ต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้จัดให้มีการอบรมผู้ควบคุมเรือและคนให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวมาใช้บริการจะต้องมีการอธิบายวิธีการเล่นให้กับนักท่องเที่ยวทราบ ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการตามมาตรการการดูแลความปลอดภัย ส่วนมาตรการในการป้องกัน นั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการจัดอบรมคนประจำเรือ ในเรื่องของมาตรการในการดูแลความปลอดภัย การช่วยชีวิต และ จิตสำนึกในการให้บริการ และที่สำคัญจะต้องย้ำเรื่องการให้บริการ ถ้าไม่ปลอดภัยจะต้องไม่ให้บริการเด็ดขาดแม้นักท่องเที่ยวเรียกร้องก็ตาม ซึ่งตั้งเป้าการอบรมไว้ จำนวน 1,000 คน


นายณชพงศ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้บริการเรือลากร่ม และ กีฬาชนิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวของ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้ง หาดกะรน หาดกะตะ หาดป่าตอง หาดบางเทา และ เกาะนาคา ที่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า มีจำนวน 39 ลำ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการมีเกือบทุกชาติ


ด้าน นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนรายดังกล่าว ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมิชชั่น ทราบชื่อต่อมา คือ Miss Han Bitong อายุ 26 ปี เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ชื่อดัง ซึ่งแพทย์แจ้งผลการรักษาว่า สามารถพูดคุยได้ตามปกติ โดยมีล่ามช่วยแปลภาษา คอยดูแลการพูดคุย และแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วในวันนี้ และในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นักท่องเที่ยวได้ออกจากโรงพยาบาลและเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ต เดินทางกลับประเทศจีน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยอำนวยความสะดวก


ขณะที่เจ้าของเรือพาราเซลลิ่ง คู่กรณี ได้ตามไปที่โรงพยาบาล เพื่อพูดคุยในเรื่องของการรักษาพยาบาล และ
ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พบว่านักท่องเที่ยวได้เดินทางออกจากโรงพยาบาล ไปแล้ว จึงได้ตามที่ที่สนามบินภูเก็ต พร้อมได้พูดคุยตกลงการดูแลค่ารักษาพยาบาลและเยียวยาทางด้านจิตใจ อินฟูลเอนเซอร์รายดังกล่าว เรียกค่าเสียหายทั้งหมด 400,000 บาท โดยทางเจ้าของเรือได้จ่ายไปก่อนในวันนี้ จำนวน 140,000 บาท ส่วนที่เหลือได้ทำเรื่องขอผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ จนกว่าจะครบตามที่นักท่องเที่ยวเรียกร้อง และขอให้นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวลบโพสต์ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต 


กำลังโหลดความคิดเห็น