พัทลุง - คืบหน้ารถตู้บรรทุกบุหรี่เถื่อนเต็มคันรถมูลค่า 5 ล้านบาท พุ่งชนกระบะกลางสี่แยก จ.พัทลุง ด้าน ผกก.สภ.กงหรา มั่นใจปิดคดีได้แน่พร้อมทำตามกฎหมาย แม้มีนายตำรวจใหญ่โทร.มาขอก็ตาม
ความคืบหน้าจากกรณี ร.ต.อ.ณรงค์ ฮกปาน ร้อยเวร สภ.กงหรา จ พัทลุง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถรถตู้ชนกับรถยนต์กระกระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดสี่แยกบ้านไสแตระ หมู่ที่ 1 ต.กงหรา อ.กงหรา จ.พัทลุง จึงเดินทางไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน นง 4539 เชียงใหม่ จอดเสียหลักอยู่ริมถนน และห่างไปอีกประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บธ 1544 ชุมพร จอดเสียหลักอยู่บนถนน ในสภาพด้านข้างรถถูกชนพังยับ และผู้โดยสารในรถยนต์กระบะยังได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน หน่วยกู้ภัยศรีนครินทร์และหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลกงหรา ช่วยกันนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลกงหรา
ชมคลิปขณะเกิดเหตุรถตู้ชนกับรถกระบะ --> https://www.facebook.com/reel/426604176463720
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ตู้พบว่า ภายในพบกล่องกระดาษสีน้ำตาลเต็มคันรถ เมื่อเปิดออกมาตรวจสอบพบเป็นบุหรี่ต่างประเทศ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นบุหรี่หลบหลีกภาษีอากร จำนวน 214 ลัง ทั้งหมด 53,500 ซอง มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถตู้พร้อมของกลางบุหรี่ต่างประเทศไปเก็บรักษาไว้เพื่อสืบสวนดำเนินคดีกับเจ้าของบุหรี่ต่อไป
จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีรถยนต์เก๋งขับนำหน้ารถตู้วิ่งกันมาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงที่เกิดเหตุตรงทางแยก โดยกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ รถกระบะวิ่งออกมาจากถนนน้ำตกโตนแพรทอง ทำให้รถตู้พุ่งชนเข้าอย่างจัง ทำให้รถกระบะเสียหลักหมุนอยู่บนถนน ส่วนคนขับรถตู้ขนบุหรี่เถื่อนได้เดินลงจากรถเก็บเอกสารภายในรถ ก่อนที่จะวิ่งไปขึ้นรถตู้สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียนไม่ชัด ที่วิ่งตามหลังมาจอดรับพาหลบหนีไป
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้หนึ่งกล่าวว่า ขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนกล่าวดังกล่าวน่าจะรับบุหรี่หนีภาษีมาจากท่าเรือ จ.ตรัง เพื่อที่จะนำไปส่งที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา และจากการสอบถามชาวบ้านบอกว่า เห็นรถตู้วิ่งผ่านหน้าบ้านมาแล้วหลายเที่ยว แต่คิดว่าเป็นรถตู้วิ่งรับส่งผู้โดยสาร ส่วนรถตู้อีกคันที่หยุดรับคนขับรถที่เกิดอุบัติเหตุพากันหนีไป อาจจะเป็นรถบรรทุกบุหรี่เถื่อนด้วยก็ได้
ล่าสุด ทางด้าน พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.กงหรา จ.พัทลุง กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเอาผิดและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนขับและรถตู้ที่มารับได้ชัด ขอเวลาชุดสืบสวนทำงานอีกนิด เชื่อว่าคดีนี้ไม่มีอะไรหนักใจว่าไปตามกฎหมาย แม้จะมีนายตำรวจใหญ่โทร.มาขอก็ตาม เพื่อความถูกต้องยึดหลักตามกฎหมาย พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บวัตถุพยานหาดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับคนขับรถที่หนีต่อไป
ขณะที่ นายเกรียงไกร มุสิกะวงค์ สรรพสามิตพื้นที่พัทลุง กล่าวว่า ในเบื้องต้นของกลางบุหรี่ทั้งหมดต้องตรวจสอบว่าเข้ามาในราชอาณาจักรถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และหากผิดจะทำการตรวจยึดเพื่อทำลายต่อไป
