ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “วิชัยฟาร์ม” เอกชนผู้ร่วมโครงการโคบาลชายแดนใต้แจงกรณี “วัวไม่ตรงปก” ที่ จ.สตูล เหตุเกษตรกรขาดคุณสมบัติเนื่องจากใช้พื้นที่ป่าสงวนและที่สาธารณประโยชน์ที่เคยทำกินมานาน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ จึงไม่เข้าข่ายเข้าโครงการ ไม่ได้รับเงิน ส่งผลกระทบถึงการเลี้ยงวัว โอดขาดทุนกับการนำร่องไปแล้วกว่า 20 ล้าน วอน ศอ.บต.ประสานขอใช้พื้นที่ให้เกษตรกร
วันนี้ (6 ก.พ.) นายวิชัย ปาทาน ผู้บริหารวิชัยฟาร์ม บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โคบาลชายแดนใต้ โครงการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งได้เลือก จ.สตูลเป็นจังหวัดนำร่องโครงการตามคำแนะนำของ ศอ.บต. กล่าวถึงกรณีที่มีการร้องเรียนว่า โคที่ได้รับไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ ว่า จ.สตูลเป็นจังหวัดที่เกษตรกรมีความพร้อมที่สุดใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ศอ.บต.ได้จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจเพื่อเข้าร่วมโครงการโคบาลชายแดนใต้ 18 กลุ่ม โดยวิชัยฟาร์มได้มอบโคให้เกษตรทั้ง 18 กลุ่มๆ ละ 50 ตัว ราคาตัวละ 17,000 บาท ตามข้อตกลงเพื่อเป็นการนำร่อง โดยยังไม่ได้เข้าโครงการ มีวิชัยฟาร์มเป็นผู้ลงทุนในการทำแปลงหญ้า แปลงละ 100,000 บาท และสร้างคอกรวม คอกละ 350,000 บาท พร้อมทั้งการดูแลในเรื่องการผสมเทียม ฉีดวัคซีน โดยที่เกษตรกรทั้ง 18 กลุ่มยังไม่ได้จ่ายเงินให้วิชัยฟาร์ม เพราะเป็นการนำร่อง ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ
“ต่อมา ปรากฏว่ากลุ่มวิสาหกิจทั้ง 18 กลุ่ม เข้าเงื่อนไขของโครงการโคบาลแดนใต้เพียง 8 กลุ่ม ส่วนอีก 10 กลุ่มไม่อยู่ในเงื่อนไข เพราะที่ทำกินของเกษตรกรตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน และที่สาธารณประโยชน์ ทำให้เข้าร่วมโครงการไม่ได้ รวมทั้งแปลงหญ้าและคอกรวมที่เกษตรกำหนดพื้นที่ให้วิชัยฟาร์มสร้างอยู่ในพื้นที่สงวนและสาธารณประโยชน์ กลายเป็นปัญหาทั้งของเกษตรกรและวิชัยฟาร์ม” นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า เมื่อไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เกษตรกรไม่ได้รับเงินจากโครงการ แต่มีภาระที่ต้องเลี้ยงวัวกลุ่มละ 50 ตัว ซึ่งขาดทั้งเงินทุนในการเลี้ยงโค และผู้ที่เลี้ยงโคไม่ได้รับค่าแรงวันละ 900 บาท นี่เป็นสาเหตุที่โคที่เลี้ยงมีสภาพที่ไม่สมบูรณ์ตามข่าวที่สื่อนำเสนอ ในส่วนของวิชัยฟาร์ม เมื่อเกษตรกร ผู้เลี้ยงไม่เข้าเงื่อนไขของโครงการเบิกเงินที่ลงทุนไปแล้วไม่ได้กว่า 20 ล้านบาท วันนี้จึงไม่ใช่เกษตรกรเดือดร้อนเท่านั้น วิชัยฟาร์มได้รับความเสียหายด้วย
นายวิชัย กล่าวว่า นี่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการโคบาลชายแดนใต้ ที่ จ.สตูล และในส่วนของคอกรวม บางคอกที่มีการบอกว่าสร้างผิดแบบ เป็นการสร้างของเกษตรกรที่ขอความช่วยเหลือจากวิชัยฟาร์มว่า ขอสร้างกันเอง เพราะต้องการมีงานทำและต้องการค้าจ้าง โดยวิชัยฟาร์มเป็นผู้ส่งวัสดุไปให้ แต่มีการสร้างที่ผิดแบบ ซึ่งเรื่องนี้แก้ไขได้ ถ้าเกษตรกรทั้ง 10 กลุ่มเข้าร่วมโครงการได้
ผู้บริหารวิชัยฟาร์ม กล่าวว่า หลังมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น วิชัยฟาร์มได้หารือกับ ศอ.บต. เพื่อให้เข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องการใช้ที่ดินในป่าสงวนและในที่สาธารณประโยชน์ เพื่อให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งล่าสุด ศอ.บต.ได้หาทางออก โดยขอให้วิชัยฟาร์มรับวัวทั้งหมดจากเกษตรกร 10 กลุ่มกลับไปเลี้ยงดูก่อน แต่วิชัยฟาร์มเห็นว่า ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง วิธีการที่ถูกต้องคือ ศอ.บต.ต้องเร่งพูดคุยกับส่วนราชการ เพื่อขอใช้พื้นที่ที่ทำแปลงหญ้าและคอกรวมไว้แล้ว เพื่อให้เป็นการใช้อย่างถูกต้อง เพราะเกษตรกรที่มีปัญหา ได้ทำกินในพื้นที่ดังกล่าวมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีเอกสารสิทธิในที่ทำกินเท่านั้น
“บริษัทเราได้รับความเสียหายและเข้าใจผิดในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องโคไม่ตรงปก ทั้งที่ในการรับมอบมีตัวแทนของทุกฝ่ายร่วมด้วย และเรื่องโคผอมที่เกิดจากการเลี้ยง ส่วนโคที่มีปัญหาซึ่งเป็นส่วนน้อย บริษัทได้เปลี่ยนให้ตามที่เกษตรกรต้องการ แต่วันนี้ปัญหาที่แย่ที่สุดคือโครงการนำร่องที่ จ.สตูล จำนวน 10 กลุ่ม วันนี้ วิชัยฟาร์มต้องการให้สื่อไปดูกลุ่มที่ไม่มีปัญหา ซึ่งมีอยู่มากกว่ากลุ่มที่มีปัญหาที่เขาประสบความสำเร็จ ส่วนกลุ่มที่มีปัญหาอยากให้ดูทุกมิติว่าปัญหานั้นเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง” นายวิชัย กล่าว