ชุมพร - พบรถ “โกหมาส” เจ้าของสนามชนไก่ที่หายตัวปริศนาถูกทิ้งริมโขง นครพนม แต่เจ้าตัวยังไร้วี่แวว ญาติยังเชื่อสาเหตุการหายตัวมีประเด็นมาจากเรื่องชู้สาว-เงิน
จากกรณีนายขนบ สมหวัง หรือ “โกหมาส” อายุ 56 ปี เจ้าของสนามชนไก่ ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย 41 ต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร หายตัวไปพร้อมรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวทะเบียน กท 3424 ชุมพร หลังจากมีปากเสียงทะเลาะกับเมียคนแรก เรื่องขอเงินแล้วไม่ได้ และมีปากเสียงกับเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบของญาติเมียคนที่ 2 ในอำเภอหลังสวน โดยนายขนบได้หายตัวไประหว่างขับรถยนต์ออกจากบ้านเมียคนที่สองในอำเภอหลังสวน ในคืนวันที่ 1 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบรถยนต์จอดทิ้งไว้ในป่าริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ตำบลหนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อ 6 โมงเย็นวันที่ 4 ก.พ.67 นั้น ส่วนเจ้าของรถยังหายตัวไร้วี่แวว
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 ก.พ.) นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พี่ชายคนหาย พร้อมด้วยนางอรวรรณ สุขภักดี อายุ 58 ปี พี่สาว และ น.ส.จารุวรรณ แซ่ภู่ อายุ 48 ปี หลานสาว ได้เดินทางมาที่ สภ.นาสัก อ.สวี เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.สมชาย บุญเกิด สว.(สอบสวน) เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการติดตามหาตัวนายขนบ หรือ “โกหมาส” ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ
โดยนายสำราญ พี่ชาย “โกหมาส” กล่าวว่า ตำรวจแจ้งว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างติดตามแกะรอยจาพภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจากบ้านพักของน้องชายไปถึงแยกเขาปีบเขตอำเภอทุ่งตะโก และถนนสายเอเชีย 41 มุ่งหน้าอำเภอหลังสวน โดยพบว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งกล้องวงจรปิดบนถนนได้จับภาพชายนิรนามใส่แว่นขับรถของนายขนบ หรือ “โกหนาส” แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
ซึ่งตำรวจกำลังเก็บไว้เป็นหลักฐาน และพบอีกว่ารถของน้องชายได้ขับมุ่งหน้าไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นขับวกกลับขึ้นมาแล้วไปจอดนอนพักอยู่ในลานจอดรถยนต์แห่งหนึ่งระหว่างเขตแดน จ.สมุทรสาคร และฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร จากนั้นไม่นานขับมุ่งหน้าขึ้นไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนกระทั่งตำรวจตามไปพบจอดทิ้งไว้ในป่าใกล้ฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ตำบลหนองญาติ อ.เมืองนครพนม เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ของวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา และนำรถไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ และจากข้อมูลกจากญาติ นายขนบ “โกหมาส” เบื้องต้นตำรวจคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาวและเรื่องการเงิน เพราะก่อนหน้านั้นทราบว่าภรรยาคนที่สองมีสามีจดทะเบียนด้วยกันอยู่แล้วอีกหนึ่งคน และเคยมีชายที่อ้างตัวว่าเป็นสามีของภรรยาคนที่สองของนายขนบ โทร.มาข่มขู่ และเรื่องเงินกู้นอกระบบมา โดยมีการบุกทวงถามกันถึงหน้าบ้าน รวมถึงเรื่องมรดกกับเมียคนแรก และเรื่องถูกคนร้ายอุ้มฆ่าโจรกรรมรถขายข้ามชาติ แต่ตำรวจยังไม่ฟันธงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ด้าน น.ส.เก๋ ภรรยาคนที่สองเผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.นาสัก ว่า ตนคบกับนายขนบ หรือโกหมาส คบกันมาไม่ต่ำกว่า 2 ปี โดยนายขนบ มาพูดคุยกับตนว่าภรรยาที่อยู่ด้วยกันแต่แยกห้องนอนเพราะว่ามีปากเสียงกันตลอด และนายขนบ จะเกริ่นๆ ว่าจะเลิกและขอแบ่งสมบัติกันซึ่งตนเองก็ฟังและดูใจกันมานานจนตกลงปลงใจอยู่ด้วย
ส่วนเรื่องปัญหาการเงินนั้นที่ผ่านมามีหยิบยืมกันบ้างแต่ใช้คืนไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องสามีเก่าตนยืนยันว่าได้เลิกและหย่าขาดกันนานแล้ว และเรื่องที่มีคนมาทวงหนี้เป็นการเข้าใจผิด เจ้าหน้าที่มาทวงผิดบ้าน เพราะคนที่เป็นหนี้คือน้องสาวตน จึงขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการการหายตัวไปของ "โกหมาส" แน่นอน