xs
xsm
sm
md
lg

พี่ชายร้องให้ช่วยตามหาน้องชายเจ้าของบ่อนไก่ชนหายตัวลึกลับ หวั่นไม่ปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - พี่ชายร้องน้องซึ่งเป็นเจ้าของสนามชนไก่ จ.ชุมพร หายตัวลึกลับ เผยก่อนหายตัวทะเลาะกับเมียคนที่ 2 เรื่องเงิน และเจ้าหนี้ตามทวงถึงหน้าบ้าน จนเรื่องถึงโรงพัก ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอสติดรถพบรถโผล่ภาคกลาง

ขณะนี้เกิดเหตุการณ์เจ้าของบ่อนไก่ชนชื่อดังใน อ.สวี จ.ชุมพร หายตัวปริศนา พร้อมรถยนต์ ตรวจสอบจีพีเอสจับสัญญาณพบรถอยู่ภาคกลาง แจ้งตำรวจติดตามแต่ยังไร้วี่แวว โดยเรื่องนี้ นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 10 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว พร้อมกับนำหลักฐานภาพถ่าย และรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท 3424 ชุมพร ของนายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือหมาส ซึ่งเป็นน้องชาย อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 5 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร และเป็นเจ้าของสนามชนไก่ หายออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 ที่ผ่านมา แจ้งตำรวจติดตามแต่ยังไม่พบตัว หวั่นเกิดเหตุร้าย

นายสำราญ ให้ข้อมูลว่า น้องชายได้เปิดสนามไก่ชนมากว่า 5 ปี ชื่อ “สนามชนไก่สเตเดี้ยมสวี” ตั้งอยู่ที่ริมถนนสายเอเชีย 41 ตำบลสวี อำเภอสวี น้องชายตนมีเมีย 2 คน คนแรกแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่มีบุตรด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 8-9 ปี ที่บ้านในพื้นที่ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี ส่วนคนที่สองอยู่ในพื้นที่อำเภอหลังสวน เท่าที่ตนทราบทั้งคู่อยู่คบหากันมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว


นายสำราญ บอกว่า นายขนบหายออกจากบ้านพักเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ โดยตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นาสัก อ.สวี ไว้เมื่อวันที่ 2 ก.พ. หลังจากนั้นได้ไปที่บริษัทจำหน่ายรถยนต์ในอำเภอสวี เพื่อของดูจีพีเอสในการติดตามรถของนายขนบ ที่ติดอยูกับรถ คันที่นายขนบขับหายไป พบว่าในวันเดียวกันเวลาประมาณบ่าย 2 โมง จีพีเอสจับความเคลื่อนไหวว่ารถจอดอยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร

นายสำราญ กล่าวต่อว่า ตนได้ให้ตำรวจสภ.สวี และบริษัทจำหน่ายรถให้ติดตามรถคันดังกล่าว โดยประสานไปยังตำรวจท้องที่ แต่ปรากฏว่า เมื่อตำรวจไปถึงรถของนายขนบหายได้ไปแล้ว หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้อีกเลยคาดว่าจีพีเอสน่าจะถูกถอดออก โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนปิดเครื่อง


นายสำราญ กล่าวว่า น้องชายไม่ค่อยพบกันบ่อย เพราะน้องชายจะยุ่งอยู่กับธุรกิจสนามชนไก่ และจะเดินทางไปเล่นไก่ตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร เวลาว่างทำสวน ตนได้โทรศัพท์คุยกันล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว จึงวิงวอนให้ตำรวจเร่งติดตามให้ด้วย เพราะน่องชายตนไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย หากจะไปกรุงเทพฯ ไม่เคยไปคนเดียวอย่างน้อยก็ไปกัน 2 คน อีกทั้งสัญญาณจีพีเอสจับการเคลื่อนตัวของรถมีความเร็วกว่าการขับปกติและไม่ค่อยจอดที่ไหน

นายสำราญ เผยอีกว่า เท่าที่ทราบข้อมูลจากเมียคนแรกที่อยู่ด้วยกันว่า มีปัญหาครอบครัวกันเรื่องเงิน เจอกันก็ขอเงิน พอไม่ให้ก็โมโหโกรธ และล่าสุดก่อนหายตัวไปขอเงินภรรยา 1 แสนบาท แต่ภรรยาไม่ให้ นายขนบก็โกรธ และบอกภรรยาว่า “ถ้างั้นมึงไปจัดการเอาเองนะที่บ่อนไก่กูไม่ทำแล้ว” ซึ่งระยะหลังมีปากเสียงลักษณะนี้บ่อย


นายสำราญ กล่าวต่อว่า ขณะที่น้องชายตนหายตัวไปนั้นได้อยู่กับเมียคนที่สอง ที่บ้านในอำเภอหลังสวน และทราบว่าก่อนหน้านั้น ได้มีเจ้าหนี้มาทวงเงินกับภรรยาคนที่สอง ที่ไปยืมเขามาและเกิดมีปากเสียงกันรุนแรงจนต้องขึ้นโรงพัก ตอนนี้ตนติดใจการหายตัวไปของน้องชายตนมาก ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินและเรื่องชู้สาว ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเตือนน้องชายเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งว่าอย่าให้ไปยุ่งกับเขา เพราะตนดูพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพูดคุยกันจบ นายสำราญ ให้ดูภาพวงจรปิดจากกล้องตำรวจทางหลวงที่จับภาพรถของนายขนบ ขณะอยู่ในพื้นที่ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 2 ก.พ.67 ช่วงเวลาประมาณเที่ยงเศษ ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังตามหาไม่พบแต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น