ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ปทส.ตามจับ “พระครูปลัด” หนีคดีอนาจารสามเณรเกือบ 10 ปี จากจังหวัดลำปางหลบมาพำนักบนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เผยไม่รู้มีหมายจับ และไม่เป็นความจริงตามที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา
วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน รองผู้บังคับการ พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผู้กำกับการ 5 สั่งการให้ชุดปฏิบัติการเข้าสืบสวนติดตามจับกุมตัว พระครูปลัดอรุณ พูลสวัสดิ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปางที่ ฝ.854/2557 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2557 ในคดีอนาจาร โดยผู้เสียหายเป็นสามเณร และผู้ต้องหารายนี้ได้มีพฤติการณ์หลบหนีไม่มารายงานตัวต่อศาลตามกำหนดนัดจึงถูกออกหมายจับกุม
เจ้าหน้าที่สืบสวนจนพบว่า พระครูปลัดอรุณ ได้หลบหนีจากจังหวัดลำปางท้องที่เกิดเหตุกลับมาจังหวัดสงขลา และเดินทางต่อมาจำวัดอยู่ที่วัดอัมพวัน หมู่ 4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
เจ้าหน้าที่ได้เข้าติดตามจนพบว่าพระครูปลัดอรุณ พำนักอยู่ในกุฏิภายในวัดจึงเข้าแสดงตัวและขอให้พระครูปลัดอรุณ แสดงเอกสารประจำตัว พบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับกุม และอ่านหมายจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ โดยพระปลัดอรุณ ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน แต่ขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้แจ้งการปฏิบัติตามหมายจับของศาลผู้ต้องหาสามารถต่อสู้คดีได้ หลังจากนั้นจึงทำบันทึกจับกุม และคุมตัวพระครูปลัดส่งไปศาลจังหวัดลำปาง เพื่อดำเนินคดี
สำหรับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การออกหมายจับนั้น พระครูปลัดอรุณ พูนสวัสดิ์ ให้การว่าบวชตั้งแต่เมื่อปี 2541 ขณะเกิดเหตุเมื่อราวปี 2556 ได้เรียนจบ ป.ตรี พุทธศาสตร์ หลังจากนั้นได้เลยมาที่วัดม่อนจำศีล มาเยี่ยมพระสงฆ์ที่เรียนรุ่นเดียวกันในจังหวัดลำปาง (สถานที่เกิดเหตุ) เลยได้ช่วยสอนหนังสือสามเณรที่วัด ซึ่งวัดเป็นโรงเรียนสามเณรเรียน ม.1-ม.6 วันเกิดเหตุทางวัดจัดกิจกรรมไหว้ครูให้การว่าเด็กๆ ไหว้เสร็จก็เข้ามากอดมาเล่นด้วย
ต่อมา ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากวันไหว้ครูปีนั้น ได้มีผู้ปกครองของสามเณรมาพร้อมกับมูลนิธิช่วยเหลือเด็กชาวเขาได้เข้ามาที่วัด และมากล่าวหาบอกว่าได้ทำอนาจารโดยการจับอวัยวะเพศของสามเณร (เป็นเด็กเผ่าม้ง) จากจังหวัดเชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเป็นคดีเมื่อ 27 มิถุนายน 2557 หลังจากนั้นไม่นานได้เดินทางออกจากพื้นที่โดยที่ไม่รู้ว่ามีหมายจับจนกระทั่งถูกจับ และขอให้การปฏิเสธเนื่องจากไม่เป็นความจริงตามที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา