นครศรีธรรมราช - ตำรวจหิ้วตัวโจรชิงทองกลางห้างดัง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มาสอบสวน แต่เจ้าตัวพูดอ้ำอึ้งจับอ้าปากตรวจ พบอมสร้อยทองของกลางเต็มปากต้องคายคามือ
วันนี้ (1 ม.ค.) ขณะที่ พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รองผู้บังคับการป้องกันปราบปราม และเจ้าหน้าที่สืบสวนนอกเครื่องแบบ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช คุมตัว นายศุภณัฐ พัฒน์ทอง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาบุกเข้าชิงทรัพย์ที่ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัสท่าศาลา ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา ก่อนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 2 เส้น รวม 6 บาท รวมมูลค่าเกือบ 2 แสนบาท และรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวเขียว ทะเบียน ครบ 435 นครศรีธรรมราช ที่ใช้ก่อเหตุ โดยมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้อย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไล่ล่าเพียงไม่ถึง 2 ชม.สามารถจับกุมได้
โดยขณะจับกุม นายศุภณัฐ อยู่ในอาการตกใจ เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าด้วยความตกใจอาจยังไม่กล้าพูด แต่หลังจากที่นำตัวมา สภ.ท่าศาลา จึงได้เริ่มทำการสอบข้อมูล นายศุภณัฐ อยู่ในลักษณะอ้ำอึ้งพูดจาไม่เต็มปากคล้ายกับอมบางอย่างอยู่ในปาก เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ดูภายในปาก นายศุภณัฐ จึงคายบางสิ่งออกมาใส่มือเจ้าหน้าที่ พบว่าเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น และรวมกับอีกเส้นที่ยึดได้ขณะเข้าจับกุม
ต่อมา พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาทำการสอบสวน นายศุภณัฐ ด้วยตัวเอง เบื้องต้นยังไม่ขอให้การใดๆ ขอให้ข้อมูลกับผู้บังคับการเพียง 2 คนเท่านั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวพนักงานร้านทองดังกล่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเป็นผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม และชี้ตัวผู้ต้องหาได้อย่างถูกต้อง และยืนยันว่า นายศุภณัฐ คือคนร้ายที่บุกเข้าไปชิงทรัพย์ที่ห้างทองเพียงลำพังคนเดียว
โดยพนักงานร้านทองได้กล่าวด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายศุภณัฐ นั้นเดินเข้าไปที่ร้านเหมือนคนปกติทั่วไป มีท่าทางเหมือนคนมีเงินมาทำทีเลือกซื้อสร้อยคอทองคำ โดยบอกพนักงานว่าจะซื้อไปให้แม่ จึงหยิบมาให้ดูลายจำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 3 บาท ก่อนที่ นายศุภณัฐ จะขอดูอีกเส้น เมื่อพนักงานหยิบมาให้ นายศุภณัฐ ก็ฉกแล้ววิ่งหนีไปทันที โดยพนักงานพยายามวิ่งไล่ตามและแจ้ง รปภ.แต่ไม่ทันเห็นได้ขับรถ จยย.หนีไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายศุภณัฐ ผู้ต้องหาไปทำแผนตั้งแต่เข้าร้านทองแล้วหลบหนีไปกบดานที่บ้านพัก ก่อนจะส่งตัวพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และฝากเตือนเจ้าของผู้ประกอบการต่างๆ ขอให้เฝ้าสังเกตบุคคลที่เข้ามาในร้าน โดยเฉพาะร้านทองในห้างสรรพสินค้นนั้นไม่มีประตู ทำให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุได้ง่าย โชคดีที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงที