ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตรวจพบสารเสพติดกลุ่ม “แอมเฟตามีน” ในคนขับเรือชนโขดหินเกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต ทำให้เด็กหญิงชาวรัสเซียเสียชีวิต 1 ราย ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากคนขับเรือไม่ใช่ตัวเรือ ขณะที่ผู้บาดเจ็บยังสาหัส 5 ราย
จากกรณีเกิดเหตุเรืออภิรักษ์ 89 ซึ่งเป็นเรือเช่าเหมาลำ พานักท่องเที่ยวจำนวน 7 คน พร้อมด้วยกัปตันและเด็กเรือรวม 9 คน ออกจากชายหาดอ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต เพื่อไปเที่ยวเกาะพีพี และระหว่างเดินทางกลับอ่าวฉลองเรือเสียหลักชนหน้าผาเกาะไม้ท่อน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นเด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 5 ขวบ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ธ.ค.66
ล่าสุด วันนี้ (1 ม.ค.) ที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายทิวัตถ์ สีดอกบวบ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เพื่อตรวจหาสารเสพติดในส่วนคนขับเรือและพนักงานในเรือที่พานักท่องเที่ยวเดินทางออกจากท่าเทียบเรือ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากการตรวจสอบเบื้อต้นไม่พบพนักงานขับเรือมีสารเสพติด
นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลรักษานักท่องเที่ยว รวมทั้งคนขับเรือและนายท้ายเรือที่ได้รับบาดเจ็บว่า ล่าสุดจากการติดตามอาการพบว่าในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้มี 8 ราย และ เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 5 ขวบ ในจำนวน 8 ราย พบว่าขณะนี้มีอาการสาหัส จำนวน 5 ราย เป็นนักท่องเที่ยว 3 ราย คนขับเรือ และเด็กท้ายเรือ รวม 2 ราย ซึ่งขณะนี้ในส่วนของผู้บาดเจ็บสาหัสได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแล้ว
ซึ่งในส่วนของคนขับเรือนั้นได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และจะมีการผ่าตัดในวันนี้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจหาสารเสพติดในส่วนของคนขับเรือแล้ว พบว่ามีสาร “แอมเฟตามีน” ซึ่งเป็นสารเสพติด แต่ยังต้องตรวจอย่างละเอียดว่าเป็นกลุ่มไหนในร่างกาย ส่วนเด็กท้ายเรือมีการตรวจแล้วเช่นกัน แต่ผลยังไม่ออก สำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้ถือว่ารุนแรง หลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบหาสาเหตุเชิงลึกต่อไป และหาวิธีในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ขณะที่ นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า เรือลำที่เกิดเหตุเป็นเรือส่วนบุคคล นักท่องเที่ยวเช่าเหมาลำออกจากชายหาดอ่าวฉลอง โดยไม่ผ่านระบบ ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวรัสเซีย ระหว่าวเดินทางกลับได้เกิดเหตุเรือพุ่งเข้าชนเกาะไม้ท่อน ซึ่งขณะนี้สาเหตุยังไม่ชัดเจน จากการสอบถามนักท่องเที่ยวทราบว่าส่วนใหญ่อยู่บริเวณท้ายเรือ รู้ตัวอีกทีเรือกำลังพุ่งเข้าไปที่โขดหินแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่า และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลังฐานได้เข้าตรวจสอบสภาพเรือในเบื้องต้น พบว่าเรือมีการตรวจสภาพมาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมใช้งาน ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ การเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ในเบื้องต้นคิดว่าสาเหตุมาจากคนขับเรือ ไม่ใช่ตัวเรือ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอึกครั้ง ซึ่งคาดว่าเรือลำนี้น่าจะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ทำให้มีการกระแทกอย่างแรง ส่วนเรื่องคดีนั้น ทางเจ้าท่า และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวน และสอบปากคำคนขับเรือ เด็กเรือ และนักท่องเที่ยวอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินดคีตามกฎหมาย แต่ในเบื้องต้นจะต้องเร่งเยียวยาในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน
นายณชพงศ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า เรือลำที่เกิดเหตุเป็นเรื่องที่ออกจากชายหาด ซึ่งถือว่าเป็นจุดบอดอย่างหนึ่ง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ทั่วถึง การออกเรือไม่ผ่านระบบ ซึ่งเรื่องนี้ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ได้มีการหารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในการแก้ไขปัญหาให้เรือที่จอดอยู่ชายหาดไปจอดในจุดจอดเรือที่กำหนด ที่ทาง อบจ.กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และต่อไปเรือทุกลำที่จะออกจากท่าเรือจะต้องดำเนินการผ่านศูนย์ Smart Pier ท่าเรืออัจฉริยะ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยให้ทุกคนผ่าน Smart Pier ต่อไปถ้าใครไม่เข้าระบบต้องกำหนดบทลงโทษ
ส่วนมาตรการในการป้องกันนั้น หลังจากนี้จะมีการตรวจหาสารเสพติดในส่วนของคนประจำเรือ และคนขับเรืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของสำนักงานเจ้าท่านั้นไม่มีอำนาจในการตรวจหาสารเสพติด แต่จะมีการขอความร่วมมือในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการในการตรวจสอบ รวมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการเองด้วย และหลังจากนี้จะมีการทบทวนมาตรการในการตรวจสอบเรื่องของสารเสพติดในส่วนของคนขับเรือ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง ซึ่งจะมีการดำเนินการทุกท่าเรือ