ชุมพร - แม่ไม่หลับนอนกว่า 30 ชั่วโมง ยังเฝ้ารอลูกชายนักเรียน ม.6 อยู่ที่เดิม หลังลงเล่นน้ำทะเลถูกคลื่นซัดจมหายต่อหน้าเพื่อน ล่าสุด นิมนต์พระสงฆ์มาช่วยทำพิธีขอให้เจอร่างพากลับบ้าน
จากกรณี นายปรมี กาลนิยม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนศรียาภัย ลงเล่นน้ำทะเลกับเพื่อนที่สะพานท่าเทียบเรือสะพลี หมู่ 5 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร แล้วถูกคลื่นซัดจมหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆ เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงเวลา 15.30 น.ของวันที่ 28 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ตลอดทั้งวันของวันที่ 29 ธ.ค.66 ที่สะพานท่าเทียบเรือประมงสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะทิว หน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังคงระดมกำลังออกค้นหาร่างของ นายปรมี กาลนิยม หรือ “น้องปอ” อายุ 17 ปี อย่างต่อเนื่อง ขณะที่คลื่นลมในทะเลยังพัดกระโชกแรงต่อเนื่อง ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะเรือยางของหน่วยกู้ภัยไม่สามารถออกห่างจากฝั่งได้ แต่ยังคงออกค้นหาตามชายฝั่งจุดที่คาดว่าคลื่นทะเลจะซัดพาร่างของนายปรมี ขึ้นมาเกยบนชายหาด แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบแต่อย่างใด
ขณะที่ นางเจนจิรา กาลนิยม อายุ 43 ปี ผู้เป็นแม่ที่แทบจะไม่ได้หลับนอน และไม่ยอมกลับบ้าน ได้แต่เฝ้ารอลูกชายแบบหลับๆ ตื่นๆ อยู่ในรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ตอนครึ่งสีขาว ที่ลูกชายขับพาเพื่อนมาเล่นน้ำ ซึ่งยังจอดอยู่ที่เดิมบนสะพานท่าเทียบเรือประมงจุดเกิดเหตุ
ต่อมา ช่วงเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน นางเจนจิรา ได้นิมนต์พระอาจารย์สันติ ฉันทพหุโล เจ้าสำนักสงฆ์ สถานปฏิบัติธรรมพรเทพประสิทธิ์สันติสุข ซึ่งอยู่ในพื้นที่มาจุดธูปเทียนทำพิธีบนชายหาด ขอให้พบร่างของ “น้องปอ” ลูกชายเร็วๆ โดยมี นายโอมประสิทธิ์ อาศัยผล อายุ 45 ปี อดีตสามี ซึ่งเป็นพ่อของ “น้องปอ” ที่หย่ากันนานแล้วมาร่วมพิธีด้วย
หลังทำพิธีเสร็จนานประมาณ 10 นาที นายโอมประสิทธิ์ ได้ขับรถยนต์ไปส่งพระอาจารย์สันติ กลับสำนักสงฆ์ แต่นางเจนจิรา ยังคงเหม่อลอยเดินอยู่บนชายหาด พร้อมกับเรียกชื่อ “น้องปอ” ลูกชาย ว่าแม่มารออยู่นะขอให้กลับบ้านไปพร้อมกับแม่ ซึ่งตั้งแต่วันเกิดเหตุผ่านไปนานเกือบ 2 วัน กว่า 30 ชั่วโมง นางเจนจิรา ยังอยู่เฝ้ารอลูกชายโดยไม่กลับบ้านแต่อย่างใด โดยได้อาศัยพักผ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะคันที่ลูกชายขับมาเล่นน้ำทะเลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนถูกคลื่นทะเลกลืนหายไป ซึ่งยังไม่พบร่างจนถึงขณะนี้
ด้าน นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี ในฐานะหัวหน้าทีมนักประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ กล่าวว่า การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบากเพราะเป็นหน้ามรสุมทะเลคลื่นลมแรง แต่จะออกเดินเท้าค้นหาไปตามชายหาดจนถึงเที่ยงคืน จึงจะยุติหาการค้นหา แล้วจะเริ่มค้นหาใหม่ในรุ่งเช้าวันต่อไป หากคลื่นลมสงบ หรือเบาลงจะออกค้นหาทางน้ำด้วย ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้จะพบร่างน้องอย่างแน่นอน
