ยะลา - เจ้าหน้าที่โยธาสถานีรถไฟบาลอ จ.ยะลา นำรถต๊อก หรือรถตรวจทางเข้าช่วยอพยพชาวบ้านบาลอเกือบ 30 ชีวิต ที่ถูกน้ำท่วมสูงออกจากพื้นที่ได้ทันและปลอดภัย ก่อนเส้นทางรถไฟจะถูกตัดขาด
วันนี้ (28 ธ.ค.) จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นภัยพิบัติอุทกภัยครั้่งใหญ่ที่สุด ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และตอนนี้หน่วยงานต่างๆ เร่งเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และท่ามกลางวิกฤตน้ำท่วมยังมีภาพและความทรงจำเรื่องราวดีๆ ของการช่วยเหลือชาวบ้านในช่วงวันแรกๆ ที่เกิดน้ำท่วมหนัก ซึ่งเป็นภาพของเจ้าหน้าที่รถไฟ ซึ่งนำโดยนายตรวจทางบาลอ สถานีรถไฟบาลอ จ.ยะลา และพนักงานโยธาที่นำรถตรวจทาง หรือ “รถต๊อก” เข้าไปช่วยอพยพชาวบ้านในพื้นที่บ้านบาลอ ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งอาศัยอยู่ริมทางรถไฟออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยได้ทันทุกคนในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนที่ทางรถไฟจะถูกน้ำท่วมตัดขาดไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้
โดยชุมชนบาลอเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมหนักระดับน้ำท่วมสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บ้านเรือนของชาวบ้านตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำสายบุรี และทางรถไฟมีความสูงกว่าชุมชน 7 เมตร ระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วมชาวบ้านจะอพยพขึ้นมาอยู่บนสันเขื่อนรางรถไฟซึ่งกว้าง 3 เมตร น้ำท่วมไม่ถึง แต่ภัยพิบัติครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี มวลน้ำมหาศาลทะลักท่วมถึงรางรถไฟแม้จะสูงถึง 7 เมตร ชาวบ้านอยู่ในสภาพที่ติดเกาะออกมาไม่ได้เพราะเส้นทางภายในหมู่บ้านถูกตัดขาด เหลือเฉพาะเส้นทางรถไฟเส้นทางเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปอพยพชาวบ้านออกมาได้
หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่รถไฟได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านบาลอ เพื่อให้ช่วยอพยพชาวบ้านเกือบ 30 ชีวิต ออกจากพื้นที่โดยด่วนที่สุดเพราะรอไม่ได้และน้ำใกล้ทะท่วมเส้นทางรถไฟด้วย ทางเจ้าหน้าที่งานโยธาสถานีรถไฟบาลอจึงรีบนำ “รถต๊อก” เข้าไปเร่งอพยพลำเลียงชาวบ้านซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ และเด็กออกมาอยู่ที่สถานีรถไฟบาลอ และต้องเข้าออกอยู่หลายรอบเพราะรถต๊อกนั่งได้จำกัด จนสามารถอพยพชาวบ้านเกือบ 30 ชีวิตที่บ้านถูกน้ำท่วมออกมาจนหมด ก่อนที่กระแสน้ำจะท่วมรางรถไฟและกัดเซาะจนไม่สามารถเดินทางไปได้อีก
เป็นเหตุการณ์นาทีวิกฤตของการช่วยชีวิตชาวบ้านของเจ้าหน้าที่งานโยธาสถานีไฟบาลอ จนได้รับการยกย่องจากชาวบ้านว่าเป็น “อัศวินรถต๊อก” จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บ้านบาลอ ขณะนี้น้ำได้ลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีพื้นที่ลุ่มริมทางรถไฟบางจุดที่ยังมีน้ำท่วมขัง ส่วนเส้นทางรถไฟเจ้าหน้าที่ของการรถไฟได้นำรถต๊อกลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบว่าถูกน้ำกัดเซาะเสียหายหลายจุด