ตรัง - เณรน้อยวัดวัดเกาะฐาน อ.ห้วยยอด วัย 13 ปี สุดแสนดีใจน้ำตาอาบแก้ม เมื่อได้พบหน้ากับโยมแม่อีกครั้ง โดยการช่วยเหลือจากหลายฝ่าย หลังจากที่ทั้งคู่ต้องพลัดพรากจากกันมานานถึง 10 ปี
นับเป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นจากการช่วยเหลือของหลายฝ่าย อันสืบเนื่องมาจากการที่ พระใบฎีกาวุฒิศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดเกาะฐาน ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้ประสานไปยัง นายปรีชา นรัษฎา ปลัดอำเภองานทะเบียนราษฎรและงานบัตรประจำตัวประชาชน ที่ว่าการอำเภอรัษฎา ว่า สามเณรชัยวัฒน์ ขาวเนียม อายุ 13 ปี สามเณรน้อยแห่งวัดเกาะฐาน มีความต้องการที่จะพบแม่สักครั้ง เพราะทั้งคู่ต้องพลัดพรากจากกันมาอย่างยาวนานถึง 10 ปีแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อหาข้อมูลได้ว่าขณะนี้แม่ของสามเณรน้อยไปอยู่ที่ไหน
สำหรับแม่ของสามเณรชัยวัฒน์ มีบ้านเดิมอยู่ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช และได้มาแต่งงานอยู่กินกับสามีในพื้นที่ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ก่อนที่ต่อมาทั้งคู่จะเลิกรากันไป ขณะที่สามเณรน้อยยังมีอายุแค่ 3 ปี และได้อาศัยอยู่กับพ่อในจังหวัดตรัง ส่วนแม่ย้ายไปอยู่ที่อื่นและไม่สามารถติดต่อกันได้ จนกระทั่งเมื่อสามเณรน้อยมีอายุ 12 ปี จึงไปบวชเป็นสามเณรที่วัดเกาะฐาน อ.ห้วยยอด โดยได้รับความเมตตาจากพระใบฎีกาวุฒิศักดิ์ เจ้าอาวาส ในการอบรมดูแลสอนสั่งให้เป็นสามเณรที่ดีตามหลักพระพุทธศาสนา
ดังนั้น ปลัดปรีชา จึงได้พยายามสืบค้นจนกระทั่งทราบที่อยู่ของ น.ส.รัชนาภรณ์ สังข์หนู อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นแม่ของสามเณรชัยวัฒน์ รวมทั้งได้เบอร์โทรศัพท์มาด้วย เบื้องต้นจึงได้ให้ทั้งสองแม่ลูกติดต่อพูดคุยกัน ก่อนที่โยมแม่จะนัดหมายให้สามเณรน้อยมาพบเจอที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นครอบครัวใหม่ของแม่ โดยมี พระใบฎีกาวุฒิศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดเกาะฐาน ร่วมเดินทางไปกับสามเณรน้อยด้วย ซึ่งทันทีที่ทั้งสองแม่ลูกได้พบหน้ากัน ต่างมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความดีใจ
ทั้งนี้ สามเณรชัยวัฒน์ ได้นำขนมเค้ก ขนมจีบ และขนมต่างๆ ไปให้ น ส.รัชนาภรณ์ ผู้เป็นแม่ เพื่อแสดงความเคารพและตอบแทนพระคุณที่ให้กำเนิดมา หลังจากที่ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันถึง 10 ปีแล้ว ส่วนโยมแม่ตั้งใจจะถวายปัจจัยจำนวนหนึ่งให้สามเณรน้อย เพื่อนำไปใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน แต่สามเณรน้อยไม่ขอรับ และให้โยมแม่เก็บไว้ใช้จ่ายเอง พร้อมกับบอกว่า จะขอบวชศึกษาพระธรรมต่อไปตามความตั้งใจ ซึ่งนับเป็นความปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลายฝ่ายในจังหวัดตรังได้ร่วมช่วยเหลือให้สองแม่ลูกคู่นี้ได้พบหน้ากันจนสำเร็จ