นราธิวาส - “เศรษฐา” นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ซับน้ำตาผู้ประสบอุทกภัย จ.นราธิวาส ยอมรับอุทกภัยปีนี้รุนแรงมาก เตรียมเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายเกรียงศักดิ์ กับป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และคณะ เดินทางลงพื้นที่จุดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบจากเหตุอุทกภัย วาตภัย ซึ่งตั้งอยู่ที่ว่าการอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส โดยมีผู้ประสบภัยเข้ามาอยู่อาศัยชั่วคราวร่วม 200 ครัวเรือน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พบปะเยี่ยมปลอบขวัญเด็กๆ และผู้สูงอายุอย่างเป็นกันเอง เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือ ถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
และได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและส่วนเกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วนและดีที่สุด ก่อนกล่าวกับผู้ประสบภัยว่า จังหวัดนราธิวาสได้เกิดเหตุน้ำท่วมสูงเป็นประวัติการณ์ จึงต้องพิจารณาประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์ให้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาบ้านเรือนราษฎร พืชเกษตร การปศุสัตว์ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ และยืนยันนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า พื้นที่จังหวัดนราธิวาส หลังเกิดอุทกภัยหลายพื้นที่ จากการติดตามพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน รวมถึงจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแผนการรับมือและแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ความพร้อมในการรับมือของหน่วยงาน แนวทางการบริหารจัดการน้ำ เช่น การระบายน้ำ รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อที่จะแก้ไขและช่วยเหลือได้ตรงและทันสถานการณ์ และหากภายใน 7 วัน ฝนไม่ตกและมวลน้ำน้อยลง สถานการณ์น้ำท่วมจะกลับสู่ภาวะปกติได้ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาช่วยเหลืออย่างเป็นระบบต่อไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมพูดคุยสอบถามประชาชนถึงความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย ก่อนเดินทางไปราชการที่ จ.ภูเก็ต ในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ฝนหยุดตกในวันนี้ ทำให้หลายจุดในพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาสระดับน้ำเริ่มลดลง เว้นพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งมีมวลน้ำจากคลองน้ำมาเลเซีย ถูกปล่อยจากเขื่อนบ้านยือลี ประเทศมาเลเซีย ทำให้พื้นที่ที่อยู่ติดแม่น้ำสุไหงโก-ลก ตามชายแดน ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก มีมวลน้ำสะสมสูงขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ และแจ้งข่าวให้ประชาชนยกสิ่งของขึ้นที่สูง เพื่อความปลอดภัยและเฝ้าระวังน้ำท่วม 24 ชม.
สำหรับความช่วยเหลืออาหารการกินให้ผู้ประสบภัย ได้มีหน่วยทหารนำรถครัวเคลื่อนที่จากหน่วยนาวิกโยธินกองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพภาค 4 ตลอดจนรถโรงครัวพระราชทาน ได้นำเจ้าหน้าที่ปรุงอาหารฮาลาลและน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้ประชาชน ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นดังกล่าว