กระบี่ - อบต. - ผู้นำท้องที่ บ้านท่าเลน จ.กระบี่ ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านและผู้ประกอบการ หลังมีการร้องเรียนการเปิดจุดรับซื้อแมงกะพรุน ส่งกลิ่นเหม็น ยอมรับมีจริงแต่ไม่มาก เผยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชน ชาวบ้านมีงานทำ สร้างรายได้งาม
กรณีผู้ประกอบการ พายเรือคายัค และ ร้านอาหารบริเวณ ม.3 บ้านท่าเลน ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็น การหมักดองแมงกระพรุน ภายในบ่อ ที่ทำด้วยผ้าใบ โดยใช้เกลือและสารเคมีอื่น ๆ ในการหมัก ซึ่งน้ำหมักดองแมงกะพรุน ได้ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่ มารับประทานอาหาร เป็นอย่างมาก
ล่าสุด นายสมยศ หยังกุล รองนายก อบต.เขาทอง พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีสุชาติ สงวนสินธุ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านท่าเลน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า จุดที่มีการตั้งเต้นท์ รับซื้อแมงกะพรุน เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ตั้งอยู่กลางชุมชน อยู่ติดกับร้านอาหาร ที่เป็น ผู้ประกอบการเรือคายัค และ มีกลิ่นของการหมักแมงกะพรุนโชยมากับลม เนื่องจากการหมักดอง แมงกะพรุนในบ่อผ้าใบนั้น จะต้องใช้เกลือและสารเคมีอื่น ๆ เป็นส่วนผสม ทำการหมักทิ้งไว้หลายๆวัน เมื่อตักแมงกะพรุนออกไปขาย ต่อ น้ำเสียในบ่อหมัก จะถูกเททิ้งลงสู่ทะเล
ว่าที่ร้อยตรีสุชาติ เปิดเผยว่า ยอมรับว่า กลิ่นจากการหมักแมงกะพรุน ส่งผลกระทบบ้างกับผู้คนและนักท่องเที่ยว ที่ผ่านไปมาบริเวณที่มีการตั้งบ่อหมักแมงกะพรุน แต่น้อยมาก หากเทียบกับสิ่งที่ชาวบ้านหลายๆคนได้รับ เพราะตั้งแต่ มีการรับซื้อแมงกะพรุน เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ชาวบ้านก็มีรายได้จากการรับจ้างล้าง หมักดอง แมงกะพรุน วันละ 700-1,000 บาท ต่อคน และ นอกจากนี้ชาวประมงพี่ออกไปจับแมงกะพรุนกลางทะเลกลับมาขาย ก็มีรายได้เพิ่ม โดยแมงกะพรุนอยู่ที่ราคาตัวละ 5 บาท มีรายได้ต่อคนไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000-3,000 บาท
สำหรับน้ำหมักแมงกะพรุนที่ถ่ายลงไปในทะเล ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ แต่กลับพบว่า ยังมีสัตว์น้ำมากินเศษแมงกะพรุน ที่ลอยลงไปในทะเล และ ก่อนที่จะมีการรับซื้อก็ได้มีการสอบถามชาวบ้านก่อนแล้ว ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยจึงให้มีการเปิดจุดรับซื้อบริเวณดังกล่าว
และหากว่าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หากได้มีการพูดคุยกันก็เชื่อว่าคงจะเข้าใจกับกลิ่น จากการหมักดองแมงกะพรุนที่เกิดขึ้นและไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใดเพราะจุดที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวจะอยู่กลางทะเล สำหรับการรับซื้อแมงกะพรุน จะอยู่เป็นช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 1-2 เดือนเท่านั้น
ด้านนายสมยศ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ก่อนการเปิดจุดรับซื้อ ทางผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่ ในพื้นที่ได้ ทำประชาคม สอบถาม ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพ ประมงพื้นบ้าน ลงมติเห็นด้วย เพราะเป็นการสร้างรายได้ โดยการ ออกทะเลจับแมงกะพรุนมาขาย ที่บริเวณดังกล่าว ปี หนึ่ง จับได้ ระยะเวลา 2-3 เดือนก็ หยุด แต่มีชาวบ้าน ผู้ประกอบการบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย เพราะได้รับผลกระทบ หลังจากนี้ อบต.จะลงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับ ผู้ประกอบการ รับซื้อแมงกะพรุนและ ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกับหามาตรการแก้ไขเพื่อให้อยู่กันได้ทั่งสองฝ่าย
