ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนขับรถรับจ้างสาธารณะ ภูเก็ตกว่า 4,500 คน บุกร้องผู้ว่าฯ แก้ปัญหารถป้ายดำไม่ถูกกฎหมาย ระงับจดทะเบียนร.ย.18 เพิ่ม ทำป้ายรถ ร.ย.18 ให้ชัดเจน หากไม่แก้พร้อมนอนศาลากลาง สุดท้ายผู้ว่าฯ ขนส่งรับทำทันที
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (21 ธ.ค.) กลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะ ประกอบด้วย รถป้ายเหลือง รถป้ายเขียว และรถตุ๊กตุ๊ก ภายใต้การนำของ นายทินกร จอมเมือง นายกสมาคมผู้ประกอบการรถรับจ้างจังหวัดภูเก็ต และ นายสุลัยมาลย์ แก้วงามดี รวมตัวกันนำรถประเภทต่างๆ จำนวนกว่า 4,500 คัน มาจอดภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งถนนด้านหน้าศาลากลาง เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในการประกอบอาชีพ จากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กรมการขนส่งทางบก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งในการรวมตัวในครั้งนี้มีการยื่นข้อเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการใน 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.เรียกร้องให้มีการจับกุมรถป้ายดำผิดกฎหมายที่นำมาวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยว เช่น รถ ร.ย.18 ป้ายต่างจังหวัด รถป้ายดำ รถกระบะ รวมถึงกรณีชาวต่างชาติ ที่ขับรถรับส่งนักท่องเที่ยว โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนหรือครอบครัว 2.ขอให้ทางกรมการขนส่งชะลอการจดทะเบียนรถ ร.ย.18 ตั้งแต่วันนี้ (21 ธ.ค.) เป็นต้นไป เพราะมองว่าปัจจุบันรถที่จดทะเบียนมีมากพอแล้ว และ 3.ขอให้กำหนดสี หรือสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของรถ ร.ย.18 ที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
นายสุลัยมาลย์ กล่าวว่า การมาเรียกร้องในครั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะไม่ได้ต่อต้านรถ ร.ย.18 ที่มีการจดทะเบียนแล้วกว่า 2,000 คัน ซึ่งคนเหล่านี้ถ้าเป็นคนภูเก็ต เป็นรถภูเก็ตที่ทำถูกต้องสามารถวิ่งได้ แต่ที่รับไม่ได้คือ รถ ร.ย.18 ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นป้ายต่างจังหวัด และ จดทะเบียนในต่างจังหวัด แต่มาวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ซึ่งพบว่ามีจำนวนมาก หรือ การนำเอารถกระบะมาจดทะเบียน ร.ย.18 และมารับส่งผู้โดยสาร รวมถึงรถป้ายดำ ตลอดจนคนขับที่ไม่ตรงกับผู้ได้รับอนุญาต มีการแต่งกายไม่เรียบร้อย ในขณะที่รถถูกกฎหมายกลับถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น จึงอยากขอความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการรถป้ายเหลือง ป้ายเขียว และ รถตุ๊กตุ๊กด้วย เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ลดความขัดแย้ง ตลอดจนลดปัญหารถติด
นายสุลัยมาลย์ กล่าต่อไปว่า ที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับการแก้ไข การมารวมตัวครั้งนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มารับเรื่องด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ยังขอให้ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ต ต่อโทรศัพท์ไปยังอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว หากการเรียกร้องในครั้งนี้ไม่ได้รับการแก้ไขทางกลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะจะรวมตัวเรียกร้องที่ศาลากลางโดยไม่มีการสลายตัวไปไหน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มีการรวมตัวเรียกร้อง ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งรักษาการขนส่งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่กอ.รมน. ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหา แต่ทางกลุ่มผู้เรียกร้องต่างยืนกราน จะคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่ง และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เท่านั้น
ในเวลาต่อมา นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่เพื่อรับข้อร้องเรียนดังกล่าว โดยในข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการให้จับกุมกลุ่มรถผิดกฎหมาย ทางผู้ว่าฯ รับปากว่าจะดำเนินการทันที โดยสั่งการไปยังตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ส่วนข้อเรียกร้องอื่นที่ไม่อยู่ในอำนาจของทางผู้ว่าราชการจังหวัด ในส่วนของข้อเรียกร้องให้มีการชะลอการจดทะเบียนรถ ร.ย 18 และการกำหนดสีหรือเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของรถ ร.ย.18 นั้น ได้มีการหารือกับทางอธิบดีกรมขนส่งทางบก และขนส่งจังหวัด และจากการหารือกับทางอธิบดีกรมการขนส่งทางบก แจ้งว่า ในการระงับการจดทะเบียน ร.ย.18 นั้น ไม่ใช่อำนาจของอธิบดี แต่ต้องทำเรื่องขอความเห็นจากคณะรัฐมนตรี รวมทั้งในเรื่องของการกำหนดสีหรือเครื่องหมาย
แต่กรณีการระงับการจดทะเบียน นั้น ขนส่งจังหวัดมีอำนาจ สามารถมีคำสั่งระงับการจดทะเบียนได้ชั่วคราว โดยทางกลุ่มผู้เดือดร้อนจึงขอให้ทางขนส่งทำประกาศขอให้ชะลอการจดทะเบียนดังกล่าวให้เห็นเป็นลายลักษณ์อักษร ให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (21 ธ.ค) ซึ่งทางสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตได้มีการดำเนินการออกประการระงับการขึ้นทะเบียนรถ ร.ย.18 เรียบร้อย
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มาพบกับผู้เดือดร้อน เพื่อยืนยันในการปราบปรามรถผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมามีการเรียกร้องในเรื่องนี้มาตลอด และ บ่อยครั้งที่มีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว แต่ไม่มีการจับกุม และมีบางกรณีรถผิดกฎหมายมีการรับส่งผู้โดยสารต่อหน้าตำรวจ แต่ไม่มีการจับกุม โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งติดประชุมอยู่ที่ ตร.ภูธรภาค 8 ได้เดินทางมาพบกับผู้ประกอบการรถรับจ้าง และรับปากจะดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังจังต่อไป
หลังจากได้ข้อสรุป กลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ
